วันพฤหัสบดี, มีนาคม 28, 2024
+บริหารท้องถิ่น

สภาพัทยาจี้ฝ่านบริหารปัญหาคอนโด Water Front ยืดเยื้อเกือบ 10 ปี คดีไม่คืบ

นายฎึก โชติกำจร สมาชิกสภาเมืองพัทยา เปิดกระทู้ถามสดถึงฝานบริหารกรณีความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาและติดตามคดีโครงกาคอนโดมิเนียม Water Front พัทยา หลังพบว่าโครงการดังกล่าวมีปัญหายืดเยื้อมานานเกือบ 10 ปี จนปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าว่าจะดำเนินการไปในทิศทางใด ส่วนประธานสภาเมืองพัทยาแนะล่าสุดศาลฎีกาออกคำสั่งเพิกถอนโฉนด 3 ฉบับอาชาแลนด์ออกโดยมิชอบ 3 แปลง แต่คดีก็ยังไม่คืบ ขณะที่อาคาร Water Front ก็เป็น 1 ใน 5 แปลงที่เกิดปัญหา ไม่มีการสืบค้นที่มาการออก สค.1 และ นส.3 กระทั่งมีการออกโฉนด นำฝ่ายกฏหมายสังฆกรรมร่วมหาหลักฐานภาพถ่ายทางอากาศและเสริมข้อมูลให้แน่นหนาเพื่อดำเนินการอย่างแก้ไขสมบูรณ์

นายโชฎึก กล่าวว่าที่ผ่านมาคดีของโครการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่อย่าง Water Front พัทยา โดย บ.บาลีฮาย เป็นคดีที่ยืดเยื้อมานาน แม่จะมีคำสั่งระงับ ห้ามก่อสร้างต่อเติม ไม่ต่อใบอนุญาต และให้รื้อถอน แต่สุดท้ายคดีนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ซึ่งทราบมาว่าปัจจุบันศาลยกคำร้องและให้ทุเลาไว้ก่อน แต่เมืองพัทยาในฐานะเจ้าบ้านก็ควรดำเนินการติดตามและแก้ไขปัญหาอย่างกระชั้นชิดจึงอยากทราบว่าจนถึงขณะนี้การดำเนินการไปถึงขั้นตอนใดบ้างแล้ว

ด้านนายคริส เชิดสุริยะ หัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคารสำนักการช่างเมืองพัทยา กล่าวว่าโครงการนี้มีการขออนุญาตปลูกสร้างตั้งแต่ปี 2551 จนกระทั่งปี 2556 หรือ 5 ปีต่อมาเมืองพัทยาตรวจพบว่ามีการก่อสร้างอาคารผิดไปจากแบบที่ยื่นเสนอขอไว้ จึงออกคำสั่งระงับการก่อสร้างและการใช้อาคาร และทางโครงการมายื่นขออนุญาตใหม่จนปี 2560 เมืองพัทยาก็มีคำสั่งไม่ต่อใบอนุญาตให้ และให้ทำการรื้อถอนในปีเดียวกัน หลังจากนั้นทางโครงการจึงทำหนังสือร้องฟ้องร้องนายกเมืองพัทยาไปยังศาลปกคราอง โดยในปี 2561 ศาลก็ได้ยกคำร้องแต่ให้ขอทุเลาไว้ เมืองพัทยาจึงต้องดำเนินการทำเรื่องรื้อถอนต่อ โดยมีหนังสือขอความร่วมมือไปยังฝ่ายวิศวกรรมก่อสร้าง และกรมโยธาธิการ แต่ก็ได้รับการปฏิเสธโดยระบุว่าไม่มีผู้เชี่ยวชาญมากพอในการคำนวณการรื้อถอนอาคารทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ปัจจุบันเมืองพัทยาจึงพยายามเร่งทำหนังสือไปยังบริษัท เอกชนผู้เชี่ยวชาจำนวน 11 แห่ง เข้ามาร่วมหารือเพื่อหาแนวทางดำเนินการในเร็ววันนี้

ขณะที่นายอนันต์ อังคณาวิศัลย์ ประธานสภาเมืองพัทยา กล่าวว่าสำหรับที่ดินแปลงของ บ.อาชญาแลนด์ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับโครงการ Water Front ศาลฎีกาได้พิพากษาถึงที่สุดแล้วว่าเป็นการออกโฉนดโดยมิชอบและให้มีการเพิกถอนโฉนดในแปลงดังกล่าวจำนวน 3 แปลง แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ซึ่งตามหลักความจริงแล้วแปลงของโครงการคอนโดดังกล่าวก็ถือเป็น 1 ใน 5 แปลงที่มีปัญหา หากมีจะมีการขุดค้นและสืบสวนเรื่องราวดังกล่าวว่าก่อนหน้านี้มีการออก สค.1 และ นส.3 รวมทั้งโฉนดออกมาได้อย่างไร ทั้งที่สภาพดั้งเดิมของแหลมบาลีฮายมีสภาพที่ติดกับน้ำทะเลที่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ เพราะเป็นที่ดินสาธารณะเป็นที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันของประชาชนทุกคน เรื่องนี้ในสมัยของนายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ เป็นนายอำเภอบางละมุง เคยคัดค้านไว้แล้ว แต่สุดท้ายก็สามารถออกเป็นเอกสารได้ จึงเป็นเรื่องที่ควรไปสืบเสาะและติดตามโดยเฉพาะการดูภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งสามารถตรวจเช็ค ย้อนหลังได้โดยละเอียด และรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดส่งต่อไปยังสำนักงานอัยการเพื่อดำเนินการอย่างจริงจังไม่ใช่ปล่อยเรื่องคาราคาซังเช่นนี้ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของอัยการที่จะต้องมาสืบค้น และเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันเคยเกิดขึ้นมาก่อนที่จังหวัดภูเก็ต ที่มีการก่อสร้างรีสอร์ทบนเขา สุดท้ายเมื่อมีการนำหลักฐานที่สมบูรณ์และถูกต้องมาแสดง รีสอร์ทดังกล่าวก็ถูกรื้อไปเพราะได้มาโดยมิชอบ เรื่องนี้ฝ่ายกฎหมายเมืองพัทยาต้องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดดำเนินการเพื่อนำที่ดินมาใช้ประโยชน์กับเมืองพัทยาอย่างสูงสุดต่อไปด้วย.