วันอังคาร, มีนาคม 19, 2024
Latest:
+รอบทิศบูรพาเศรษฐกิจ

นายกฯ Kick off โครงการนำร่องยางพาราฯ มุ่งเน้นภาครัฐใช้ยางพารามากขึ้น

เมื่อวันที่ 25 ส.ค.63 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการนำร่องนำยางพารามาใช้เพื่อปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัยทางถนน (Kick off) ณ บริเวณโค้งศาลหินตั้ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี พร้อมเยี่ยมชมการสาธิตการติดตั้งกำแพงคอนกรีตหุ้มแผ่นยางพารา (Rubber Fender Barrier : RFB) และนิทรรศการผลิตแผ่นยางพาราครอบกำแพงคอนกรีต และเสาหลักนำทางยางธรรมชาติ (Rubber Guide Post : RGP) โดยมีคณะรัฐมนตรี ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นายพงษ์พัฒน์ วงศ์ตระกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี รวมถึงประชาชนในพื้นที่ร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วย

นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคมและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามบันทึกข้อตกลง เรื่อง อุปกรณ์ทางด้านการจราจรและอำนวยความปลอดภัยทางถนนที่ผลิตจากยางพาราเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในหน่วยงานภาครัฐ ตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นให้หน่วยงานภาครัฐใช้ยางพารามากขึ้น จนเป็นที่มาของโครงการนำร่องการนำยางพารามาใช้เพื่อปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัยทางถนน (Kick off) บริเวณโค้งศาลหินตั้ง ทางหลวงหมายเลข 3249 ตอน เขาไร่ยา – แพร่งขาหยั่ง ระหว่าง กม. 11+350 – กม. 11+765 อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน ให้มีความปลอดภัยในการเดินทาง ลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินจากอุบัติเหตุทางถนน ทั้งนี้ ยังเป็นการสร้างรายได้โดยตรงแก่เกษตรกรชาวสวนยางพาราทั่วประเทศให้มีความมั่นคง รวมถึงจังหวัดจันทบุรีที่มียางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจด้วย ซึ่งเป็นไปตามแนวทาง “รวมใจ ไทยสร้างชาติ” ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าและยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรี ย้ำนโยบายรัฐบาลว่า ต้องการให้ผลผลิตยางมีราคาสูงขึ้น เพื่อช่วยเหลือบรรเทา ความเดือดร้อนแก่เกษตรชาวยางพารา ทั้งนโยบายประกันราคายาง การใช้ผลงานวิจัยเพื่อนำมาพัฒนาเป็นผลงานที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการใช้น้ำยางพารามาเป็นส่วนผสมในการทำถนน ซ่อมบำรุงถนน เพิ่มความปลอดภัยทางจราจร และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ทำให้การส่งออกยางพาราลดลง จึงต้องส่งเสริมการใช้ยางพาราภายในประเทศให้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการหมุนเวียนในประเทศให้เกิดการจ้างงาน ขณะเดียวกันรัฐบาลก็มีนโยบายนำต้นยางที่หมดอายุมาแปรรูปเป็นพลังงานผ่านโรงไฟฟ้าชุมชน ซึ่งสอดรับกับเกษตร BCG ที่ใช้วัสดุเหลือใช้จากการเกษตร และการส่งเสริมธุรกิจ SMEs วิสาหกิจชุมชน OTOP เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ประชนในพื้นที่ สร้างความมั่นคงให้แก่ประเทศ ตามนโยบาย “รวมไทย สร้างชาติ”

นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตลักษณ์ ได้รับความชื่นชมจากต่างประเทศมากมาย เช่น รอยยิ้มที่เป็นมิตรไมตรี อาหารอร่อย ธรรมชาติสวยงาม และที่สำคัญคือความสามารถในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในตอนนี้ประเทศไทยจึงต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปกับมาตรการป้องกันโรค เน้นให้มีการลงทุนของชาวต่างชาติ ส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทย ขอให้พี่น้องประชาชนเข้าใจการทำงานของรัฐบาล ลดความขัดแย้ง ใช้วิธีการประนีประนอมเพื่อพูดคุยหารือกัน โดยยินดีรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ย้ำว่ากฎหมายนั้นก่อให้เกิดความเป็นธรรม ความเท่าเทียม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงโอกาส

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมการสาธิตการติดตั้งกำแพงคอนกรีตหุ้มแผ่นยางพารา (Rubber Fender Barrier : RFB) นิทรรศการผลิตแผ่นยางพาราครอบกำแพงคอนกรีต และเสาหลักนำทางยางธรรมชาติ (Rubber Guide Post : RGP) สำหรับนำไปใช้ประโยชน์เป็นอุปกรณ์ทางด้านการจราจรและอำนวยความปลอดภัย เพื่อลดอุปทานและขยับราคายางพาราให้สูงขึ้น พร้อมพบปะเกษตรกรชาวสวนยางพาราพูดคุยให้กำลังใจด้วย