นายกเมืองพัทยารับปากทบทวนแผนก่อสร้างสะพานข้ามแยกพัทยาใต้ หลังชาวบ้านคัดค้านหนัก หวั่นทำเศรษฐกิจซบเซา
ที่ วัดธรรมสามัคคีพัทยาใต้ ดร.มาย ไชยนิตย์ อดีตนายกเมืองหนองปรือ ร่วมกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการศึกษาความเหมาะสม สำรวจ ออกแบบทางแยกต่างระดับจุดตัดถนนสุขุมวิทกับถนนพัทยาใต้ เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รวมตัวคัดค้าน พร้อมนำเสนอทางออก เพื่อขอให้เมืองพัทยายกเลิกแนวทางการก่อสร้างแยกต่างระดับจุดตัดถนนสุขุมวิทกับถนนพัทยาใต้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนและชุมชน และยังสามารถประหยัดงบประมาณแผ่นดินได้อีกด้วย โดยมี นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา คณะผู้บริหารเมืองพัทยา และสมาชิกสภาเมืองพัทยา ร่วมกับฟังข้อเสนอแนะ และชี้แจงรายละเอียดให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ในการประชาคมชุมชน รับฟังปัญหาชุมชนวัดธรรมสามัคคี พัทยาใต้
ดร.มาย ไชยนิตย์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองหนองปรือ ได้เสนอปัญหาผลกระทบหากเมืองพัทยามีการก่อสร้างสะพานลอยข้ามแยกพัทยาใต้ ว่าต้องของขอบคุณเมืองพัทยาที่มีแนวคิดจะดำเนินการพัฒนาเสริมสร้างสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดี แต่เหรียญก็มีสองด้าน มีทั้งด้านบวกและลบ หลายโครงการหลายคนมองว่าเหมาะสม แต่อีกหลายโครงการและหลายๆ คนที่มองอีกแง่มุมหนึ่ง ก็จะเกิดปัญหาผลกระทบด้านมลภาวะสุขภาพร่างกาย สิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่
ปัจจุบันนั้นตัวเองมาอาศัยอยู่ในเมืองพัทยา บ้านอยู่บริเวณตรงข้ามตำรวจทางหลวง โครงการศึกษาความเหมาะสม สำรวจ ออกแบบทางแยกต่างระดับจุดตัดถนนสุขุมวิทกับถนนพัทยาใต้ เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นั้นส่งผลกระทบโดยตรงกับตัวเองและครอบครัว โครงการปรับปรุงการจราจรถนนสายสุขุมวิท จะเห็นว่า มพย.ได้ทำผ่านมา 1 โครงการ ซึ่งโครงการระดับ A+ คือ อุโมงค์ลอดสะพานทางแยกต่างระดับต่างๆ ก็ได้อำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ชีวิตได้อย่างรวดเร็วขึ้น มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม
ส่วน โครางการที่ 2 คือโครงการอุโมงค์ลอดพัทยาใต้-เทพประสิทธิ์ คงจะเป็นการก่อสร้างระนาบเดียวกัน แต่ว่าโครงการนี้ติดปลายนวมมาด้วยคือ “สะพานลอย” ส่วนตัวไม่ทราบว่าเหตุผลและแนวคิดของเจ้าของโครงการในการเพิ่มเติมสะพานลอยเข้าไป ว่ามีเหตุผลอะไรบ้าง จะเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนมากกว่าอุโมงค์เพิ่มขึ้นอีกมากมายหรือไม่ ซึ่งหลังได้พูดคุยกับผู้ใหญ่หลายๆ ฝ่ายเกี่ยวกับแผนการก่อสร้างดังกล่าว การก่อสร้างสะพานลอยหากไปสร้างอยู่กลางทุ่ง ข้างเขา ริมทะเล ซึ่งไม่มีบ้านคนมันก็อำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มที่ แต่ทีนี้สร้างพาดผ่านชุมชนหนาแน่น รถวิ่งวันหนึ่ง 5,000 คัน ฝุ่นควันไอเสียเท่าไร ละอองฝุ่นมากมาย
นอกจากควันไอเสียมลภาวะต่างๆ แล้ว ยังมีมลภาวะทางเสียง นอกจากนั้น ยังมีระหว่างการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างครอบคลุมถนน ทำให้สภาพภูมิทัศน์ของพัทยาใต้เสียหายไป ปัญหาเหล่านี้อยากให้ทุกภาคส่วนมีการพูดคุยหารือร่วมกัน สิ่งที่คิดไว้นั้นอาจจะก่อประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนบ้าง แต่ว่าผลเสียก็เยอะกว่า วันนี้ตัวเองและประชาชนจึงเข้ามาเพื่อที่จะให้ข้อเสนอในการที่จะทำโครงการนี้ แต่วิธีการที่ได้ยินได้ฟังคือบอกว่ายกเลิกโครงการ หรือไม่ยกเลิกโครงการเฉพาะสะพานลอย การยกเลิกโครงการถ้ายกเลิกในที่ประชุมเฉยๆ มันไม่จบ วันดี คืนดีก็มาอีก เพราะมีแผนขบวนการก่อสร้างอยู่ในกองช่าง อยู่ในแผนงบประมาณเมืองพัทยา อยู่ในแผนงบประมาณเงินอุดหนุนจากรัฐบาลกลาง วันดีคืนดีก็มีการไปขอมาอีก ก็กลายเป็นเรื่อง
เพราะฉะนั้นการประชุมวันนี้คือ ถ้าไม่เอาจะต้องยกเลิกแผนโดยมีมติให้เมืองพัทยายกเลิกแผนการสร้างสะพานลอย คือจะไม่มีในแผนงบประมาณ แผนพัฒนาไม่ว่าจะย้อนไป 20 ปี 15 ปี ก็แล้วแต่ จะได้จบ ทั้งนี้ฝากรองนายก สม. ประธานสภา อบจ. ว่าโครงการนี้ไปทำต่อให้จบ ไม่ต้องไปทำอะไรแล้วหาเงินมาลงอย่างเดียว ประมาณ 600 ล้านบาท 3 ปีก็เสร็จแล้ว จะเหมือนถนนข้าวหลาม บางแสน จะทำให้เมืองพัทยา หนองปรือ คล่องสัญจรไปมาได้มากขึ้น
ด้าน นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา ได้กล่าวชี้แจงกับชาวบ้านที่รวมตัวคัดค้านโครงการศึกษาความเหมาะสม สำรวจ ออกแบบทางแยกต่างระดับจุดตัดถนนสุขุมวิทกับถนนพัทยาใต้ เมืองพัทยาว่า การทำประชาพิจารณ์ในโครงการต่างๆ นั้น จะให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบเป้นผู้มีสิทธิออกเสียงก่อน และการรับฟังความคิดเห็นต่อไปจะเป็นสิทธิของผู้ที่สัญจรไปมา ซึ่งการทำประชาพิจารณ์อุโมงค์ทางลอดพัทยากลางครั้งแรก ได้รับเสียงคัดค้านต่างๆ นานา เมืองพัทยาได้มีการพูดคุยสร้างความเข้าใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับส่วนรวม จึงได้มาซึ่งอุโมงค์ทางลอดพัทยาจนถึงทุกวันนี้
ส่วนพื้นที่พัทยาใต้ที่เมืองพัทยาได้มีการดำเนินโครงการศึกษาความเหมาะสม สำรวจ ออกแบบทางแยกต่างระดับจุดตัดถนนสุขุมวิทกับถนนพัทยาใต้ เมืองพัทยา โดยได้มีการจัดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมาแล้วถึง 3 ครั้ง การทำประชาพิจารณ์ครั้งที่ 3 เป็นการทำผ่านระบบอนไลน์ ซึ่งในการทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นนั้น ได้มีทางเลือกรูปแบบ 3 รูปแบบ เสนอให้กับประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้ร่วมเสนอความคิดเห็น ประกอบด้วย
1.รูปแบบอุโมงค์ทางลอด (tunel) ซึ่งจะก่อสร้างเป็นรูปแบบอุโมงค์บนถนนสุขุมวิท ยาวเพื่อลอดใต้ผ่าน 2 ทางแยก คือ แยกพัทยาใต้และแยกเทพประสิทธิ์ แบ่งเป็น 4 ช่องจราจร ระยะทางยาวรวมกว่า 2 กม. 2.รูปแบบสะพานยกระดับ (Over pass) ซึ่งก่อสร้างบนถนนสุขุมวิท ขนาด 4 ช่องจราจรไปกลับ เพื่อข้ามแยกพัทยาใต้ ซึ่งเป็นจุดตัด จากนั้นจึงลดระดับลงมาที่ระดับถนนจนเมื่อถึงทางแยกเทพประสิทธิ์จะก่อสร้างสะพานยกระดับอีก 1 สะพานเพื่อข้ามแยกเทพประสิทธิ์ และ 3.รูปแบบสะพานยกระดับและอุโมงค์ทางลอด (Over pass & tunel) โดยจะก่อสร้างสะพานยกระดับบนถนนสุขุมวิทเพื่อข้ามจุดตัดทางแยกพัทยาใต้ก่อนจะลดระดับลงมาที่ระดับถนนนั้น ซึ่งการทำประชาพิจารณ์นั้นอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ประชาชนบางกลุ่มบางคนอาจจะยังไม่ได้รับข้อความข้อมูลเท่าที่ควร ทั้งนี้ข้อสรุปจากการทำประชาพิจารณทั้ง 3 ครั้ง พบว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นชอบรูปแบบสะพานยกระดับและอุโมงค์ทางลอด (Over pass & tunel) อย่างไรก็ตาม การจะดำเนินโครงการก่อสร้างนั้น หากมีผลกระทบและมีการร้องเรียนเข้ามา การทบทวนโครงการก็สามารถกลับมาทำใหม่ได้
นายกเมืองพัทยา ชี้แจงต่ออีกว่า ทั้งนี้โครงการศึกษาความเหมาะสม สำรวจ ออกแบบทางแยกต่างระดับจุดตัดถนนสุขุมวิทกับถนนพัทยาใต้ เมืองพัทยา นั้นยังไม่มีการขยับดำเนินการอะไรใดๆ ทั้งนั้น มีเพียงแต่การศึกษาออกแบบรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเท่านั้น ไม่ได้มีการตั้งงบประมาณ ด้วยโครงการดังกล่าวใช้งบประมาณในการดำเนินการก่อสร้างสูง ลำพังงบประมาณของเมืองพัทยาจะมาดำเนินการก่อสร้าง คงไม่เพียงพอที่จะนำมาอุดหนุนการก่อสร้าง หากจะมีการก่อสร้างจะต้องใช้งบประมาณของกระทรวงคมนาคม ทั้งยังขอยืนยันว่าเมืองพัทยาไม่ได้มีการเสนอของบอุดหนุนไปยังกระทรวงมหาดไทย ด้วยการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ยังมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบ อีกทั้งการจะใช้งบประมาณของเมืองพัทยาโดยตรงนั้น จะเป็นการใช้งบประมาณผูกพันหลายปี ทำให้เมืองพัทยาไม่สามารถนำงบประมาณมาบริหารงานส่วนอื่นๆได้
ทั้งนี้ในที่ประชุมประชาคมชุมชน รับฟังปัญหาชุมชนวัดธรรมสามัคคี พัทยาใต้ ชาวบ้านที่เข้าร่วมประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์คัดค้านการก่อสร้างสะพานข้ามแยกพัทยาใต้ ทุกรูปแบบ เพราะหวั่นเศรษฐกิจซบเซา