+บริหารท้องถิ่น

เอาจริง!ทต.ตะเคียนเตี้ย รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกที่สาธารณะ “บ้านหนองหอย”

ตามที่คณะทำงานแก้ปัญหาการบุกรุกทวงคืนพื้นที่สาธารณะ โดยการบูรณาการของสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาบางละมุง สำนักปลัดเทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย อำเภอบางละมุง ที่ติดตามโครงการทวงคืนพื้นป่า ที่ดินสาธารณะ หมู่ 4 หนองหอย ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีผู้บุกรุกเข้าครอบครองในพื้นที่สาธารณะรวมจำนวนเนื้อที่ทั้งหมด 36 ไร่ 84 ตารางวา ทั้งนี้ให้เป็นไปตามแผนโครงการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ นสล.25587 จำนวน 36 ไร่ 84 ตารางวา เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตพื้นที่ชุมชน เทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย และให้เป็นไปตามกฎหมายที่จะต้องวางแนวเขตที่กำหนดก่อนจะจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาระบบ และการปรับปรุงภูมิทัศน์ของเมือง และการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดีจะเป็นปัจจัยที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน เช่น การก่อสร้าง สระเก็บน้ำ สนามเด็กเล่น อาคารเอนกประสงค์ อาคารเก็บวัสดุ สนามฟุตบอล ลานกีฬา เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ และเพิ่มคุณภาพเศรษฐกิจ เพื่อทวงคืนพื้นที่สาธารณะ หลังจากที่มีชาวบ้านบุกรุก ปลูกพืชไร่ และสร้างบ้านพักอาศัย ซึ่งที่ผ่านมาทางเทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย ได้แจ้งให้ผู้ที่บุกรุกทั้ง 35 ครอบครัวรับทราบ และรื้อถอนภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนด โดยสิ้นสุดเมื่อวันที่ 6 พ.ย.2562 ที่ผ่านมานั้น

ต่อมาเมื่อวันที่2 ธ.ค.2562 นายมานพ ประกอบธรรม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลคะเคียนเตี้ย พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักปลัดเทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่เทศกิจ และคนงาน ได้ลงพื้นที่รื้อถอนบ้านพักและเพิงพักสังกะสีที่รุกล้ำที่สาธารณะ ซึ่งมีนายบัว เนตรขา 57 ปี รับเป็นเจ้าของ และมีบ้านพักที่ไม่มีผู้แสดงสิทธิอีกจำนวน 1 หลัง

นายมานพ กล่าวว่า พื้นที่สาธารณะหนองหอย เป็นพื้นที่สาธารณะส่วนกลางรวมพื้นที่ 36 ไร่ 84 ตารางวา ปัจจุบันพบว่ามีการบุกรุกปลูกพืชไร่ เช่น มันสำประหลัง และพืชอื่นๆ รวมทั้งสร้างบ้านพักอาศัยไปจนหมด ซึ่งทางราชการได้ปิดประกาศให้ผู้ที่บุกรุก ขนย้ายข้าวของออกจากพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 รวมระยะเวลากว่า 10 ปีแล้ว แต่ปัจจุบันยังพบว่ามีกลุ่มผู้บุกรุกยังคงปักหลักอยู่บนที่สาธารณะ และยังขายสิทธิ์เปลี่ยนมือที่ดิน

นายมานพ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีบ้านพักอยู่ประมาณ 35 ครัวเรือน ซึ่งที่ผ่านมาได้แจ้งให้ผู้บุกรุกทั้งหมดรื้อถอน ทั้งทางเอกสาร และวาจา เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าจากนี้ไปทางราชการเริ่มเอาจริงในการทวงคืนผืนที่สาธารณะดังกล่าว และทำการปรับปรุงภูมิทัศน์ พัฒนาเป็นศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยว และพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญของตำบลตะเคียนเตี้ย ทั้งยังสามารถพัฒนาเป็นจุดรองรับการกักเก็บน้ำช่วยป้องกันปัญหาน้ำท่วมในเขตเมือง และพื้นที่โดยรอบได้ ส่วนประชาชนที่บุกรุกทั้ง 35 ครับครัว หาแนวทางช่วยเหลือตามความเหมาะสม แต่อย่างไรก็ตามหากผู้บุกรุกยังดื้อแพ่งไม่ยินยอมจะดำเนินการตามกฏหมายกับกลุ่มที่บุกรุกทุกครอบครัว จากนั้นจะได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป.