+บริหารท้องถิ่น

สภาเมืองพัทยา ผ่านฉลุย เจียดเงินกว่า 25 ล้านบาท ช่วย 2 โครงการแก้ปัญหาน้ำเสีย-น้ำท่วม

ที่ห้องประชุมสภาเมืองพัทยา นายพัฒนา บุญสวัสดิ์ รองนายกเมืองพัทยา นำเสนอญัตติขออนุมัติจ่ายขาดเงินสะสม เพื่อสมทบโครงการขออนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 2 โครงการ เป็นเงิน 25.27 ล้านบาท

นายพัฒนา กล่าวว่า ครม.มีมติในการประชุมสัญจรที่ จ.ระยอง เมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ที่เห็นชอบโครงการในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมและและสิ่งแวดล้อม จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรและอุปกรณ์ในระบบบำบัดน้ำเสียพื้นที่พัทยา และ 2.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพสถานีสูบป้องกันน้ำท่วมถนนสุขุมวิทและนาเกลือ ในงบประมาณ 227 ล้านบาท โดยในกรณีเป็นงบลงทุนเพื่อก่อสร้างหรือบำรุงรักษากิจการโครงสร้างพื้นฐานและการให้บริการประชาชนที่มีวงเงินตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ให้ อปท.สมทบวงเงินในสัดส่วนร้อยละ 10 กรณีการใช้เงินสะสมจึงต้องขออนุมัติมายังสภาเมืองพัทยามาในครั้งนี้

ในการนี้ สภาได้เปิดอภิปรายถึงกรณีดังกล่าวว่างบประมาณที่ ครม.อนุมัติให้นั้นถือว่ามีความจำเป็น เพราะระบบสถานีสูบน้ำ และระบบบำบัดน้ำเสียของเมืองพัทยาผ่านการใช้งานมานานนับสิบปี เพราะสภาชุดนี้ได้ลงมาดูเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 2559 ตั้งแต่มารับตำแหน่งใหม่ๆ ซึ่งพบว่าหลายส่วนชำรุดเสียหาย โดยเฉพาะสถานีสูบน้ำ และโรงบำบัดน้ำเสีย ซึ่งปัจจุบันมีความสามารถในการบำบัดน้ำเสียได้เพียง 6.5 หมื่น ลบ.ม./วัน ขณะที่ปริมาณน้ำเสียมีปริมาณเกินความสามารถที่จะรองรับได้ อย่างไรก็ตามงบประมาณทั้ง 2 โครงการเป็นงบประมาณเพื่อซ่อมแซมระบบเท่านั้น ไม่ได้เป็นการเพิ่มศักยภาพการบำบัดที่จะรองรับน้ำเสียในอนาคตขนาด 1.2-1.5 แสน ลบ.ม./วัน จึงควรมีแนวทางการคิดบริหารจัดการและวางแผนเพื่อรองรับไว้ในอนาคต เพราะสุดท้ายการใช้งบผูกพันที่เกินกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป จำเป็นที่ อปท.จะต้องสมทบเงินร่วมด้วย 10% ขณะที่เงินคงคลังในช่วงที่ผ่านมา มีการเบิกไปใช้ในการลงทุนเป็นจำนวนมาก ทำให้เหลืองบกลางใช้จ่ายไม่มากนักในคราวจำเป็น ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ต้องใช้หากมีการเปิดประ เทศและเกิดการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด -19 รอบ 2 ขณะที่น้ำเสียหรือน้ำฝนที่หลากจากเทศบาลเมืองหนองปรือ และเทศบาลหนองปลาไหลก็เป็นอีกปัญหาที่เมืองพัทยาต้องแบกรับ

ด้านนายอนุติ เหล่าทองคำ ผอ.สำนักการช่างสุขาภิบาล กล่าวว่าทั้ง 2 โครงการจะเน้นไปที่การปรับปรุงซ่อมแซมระบบเพื่อให้สามารถรองรับปัญหาที่เกิดขึ้นได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังจากเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากและน้ำเสียไหลลงสู่ทะเล แต่คงยังไม่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบำบัดให้สูงขึ้นได้ เพียงแต่ปริมาณน้ำเสียยังมีสัดส่วนเกินอัตราการรองรับ 10-20 % ซึ่งจะได้มีการวางแผนการบริหารจัดการต่อ ไป ขณะที่ปัญหาน้ำหลากของพื้นที่ข้างเคียงนั้นในส่วนของเทศบาลเมืองหนองปรือและหนองปลาไหล จากการตรวจวัดค่าความเป็นกรดเป็นด่างของน้ำพบว่าค่า BOD ยังไม่เกินมาตรฐานคงยังสามารรถระบายลงสู่คลองธรรมชาติได้ แต่ในอนาคตคงต้องมีการพูดคุยเจรจาเรื่องการจัดสร้างสถานีบำบัดน้ำเสียเอง ส่วนเทศบาลนาจอมเทียนนั้น พบว่ามีปริมาณน้ำเสียที่มีค่า BOD เกินกำหนด แต่มีการขออนุญาตต่อเชื่อมเข้าระบบบำบัดที่ซอยวัดบุญกัญจนารามแล้ว ซึ่งยังสามารถรองรับน้ำเสียได้อยู่ เพราะที่โรงบำบัดแห่งนี้มีความสามารถบำบัดน้ำเสียได้ที่ 4.5 หมื่น ลบ./ วัน แต่มีน้ำเข้ามาบำบัดเพียง 2.5 หมื่น ลบ./วัน จึงยังสามารถรองรับน้ำเสียจากเทศบาลนาจอมเทียนได้ และทางเทศบาลพร้อมชำระค่าธรรมเนียมการบำบัดน้ำเสียด้วย

ทั้งนี้ในที่ประชุมสภาเมืองพัทยามีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ อนุมัติเบิกจ่ายงบประมาณสะสม 10% จำนวน 25.27 ล้านบาทเศษ เพื่อดำเนินการตามโครงการดังกล่าวต่อไป.