ตาวัย 71 ปี หอบสังขารขึ้นโรงพัก หลังพาเมียขี่รถจยย.พ่วงข้างยกรถจยย.แต่ยกผิดคัน ชีวิตเกือบเปลี่ยนหวิดติดคุกตอนแก่
จากกรณีนางนฤมล คงไทย อายุ 56 ปี เดินทางเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.นาจอมเทียน หลังพบว่ารถจยย.ถูกคนร้ายขโมยไป พร้อมนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาเปิดเผย โดยในช่วงเวลาประมาณ 14.00 น.ของวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา มีชายหญิงคู่หนึ่ง ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง เข้ามาภายในหมู่บ้านเอื้ออาทรนาจอมเทียน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ก่อนขับตรงไปที่ตึก 84 และยกรถจยย.ฮอนด้าคลิก สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน งกน 497 ชลบุรี ขึ้นรถพ่วงข้างแล้วขับออกไปทางหน้าหมู่บ้านนั้น
อ่านข่าวเดิม 👉 https://athipburapa.com/archives/42337
ต่อมาเมื่อบ่ายวันที่ 5 มิ.ย. พ.ต.อ.วัฒนชัย แสงฤทธิ์ ผกก.สภ.นาจอมเทียน ได้เชิญนางนฤมล ผู้เสียหาย และนายประเวทย์ เกษม อายุ 71ปี พร้อมภรรยา ที่ยกรถจักรยานยนต์ไป เข้าพบที่ สภ.นาจอมเทียน เพื่อพูดคุยและไกล่เกลี่ย หลังจากที่อีกฝ่ายได้นำรถจักรยานยนต์มาคืนพร้อมให้เหตุผลว่ายกรถจักรยานยนต์ไปผิดคัน โดยมีน้องสาว เดินทางมามาร่วมเป็นพยานในครั้งนี้ด้วย
นายประเวทย์ เปิดเผยว่า เมื่อประมาณหนึ่งเดือนก่อน น้องสาวของตนเอง ที่วันนี้เดินทางมาเป็นพยาน ได้ติดต่อมา และบอกให้ไปเอารถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า คลิก ที่ไม่ได้ใช้งาน จอดทิ้งไว้ที่หน้าตึก 84 พร้อมกับส่งกุญแจรถจยย.มาให้ จากนั้นในวันที่เกิดเหตุ ตนเองได้ไปเอารถจยย. ตามที่ได้บอกไว้ เมื่อไปถึงพบกับรถจยย.ฮอนด้า คลิก สีน้ำเงิน-ดำ ที่จอดทิ้งไว้บริเวณด้านหน้าตึก ตนเองคิดว่าเป็นรถของน้องสาว เนื่องจากมีสภาพเก่าและไม่ค่อยได้ใช้งาน
นายประเวทย์ กล่าวอีกว่า จากนั้นก็ช่วยกันกับภรรยา ยกรถจยย.ขึ้นรถพ่วงข้างและขับออกมา ผ่านไป 6 วัน ลูกติดต่อมาบอกว่ามีคนได้นำภาพตนเองและภรรยา ลักษณะขับรถพ่วงข้าง พร้อมกับระบุข้อความตามหารถจักรยานยนต์หลังถูกขโมยไป ตนตกใจอย่างมาก จึงโทรศัพท์ไปหาน้องสาว ปรากฏว่ายกมาผิดคัน จึงให้ลูกติดต่อไปยังผู้เสียหาย และรีบนำมาคืนที่ สภ.นาจอมเทียน หลังจากมีการพูดคุยกัน ก็รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากที่เจ้าของรถได้ยอมความ
ด้านพ.ต.อ.วัฒนชัย แสงฤทธิ์ ผกก.สภ.นาจอมเทียน กล่าวว่า สำหรับเคสดังกล่าวเป็นเรื่องของการเข้าใจผิด เนื่องจากคนที่มาเอารถจักรยานยนต์ ไม่ได้สอบถามสี หมายเลขทะเบียนให้แน่ชัด อีกทั้งยังจอดอยู่ใกล้กันเมื่อมาถึง คิดว่าเป็นรถคันที่ต้องมาเอา จึงยกไปโดยที่ไม่ได้โทรสอบถาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เรียกทั้งสองฝ่ายมาคุย และปรับความเข้าใจกัน ก่อนจะมีการยอมความและพูดคุยจนแฮปปี้ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายคุณลุงที่มายกรถไปก็ขอซื้อรถจักรยานยนต์ในราคา 7,000 บาท ทั้งนี้ อยากจะฝากไปถึงคนอื่นๆ ก่อนที่จะไปเอาอะไร ขอให้สอบถามให้แน่ชัดไม่งั้นอาจจะเกิดการเข้าใจผิดถึงขั้นเป็นคดีดังกล่าว.