+ข่าวแดนใต้

มทภ.4 พบผู้นำศาสนา  ย้ำชัด แก้ไฟใต้ ใช้ความจริง ลดเงื่อนไขพื้นที่ 

            ที่ห้องประชุมบรมราชกุมารี สำนักงานคณะกรรมการอิสลาม จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 เวลา 10.30 น. พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานประชุม ผู้นำศาสนาและคณะที่ปรึกษาปรึกษาส่งเสริมความยุติธรรม ในพื้นที่ 13 อำเภอ ของจังหวัดนราธิวาส จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดย มีนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 นายซาฟาอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส เข้าร่วมประชุม ร่วมกว่า 100 คน

            ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจ รับทราบปัญหา และข้อขัดข้อง ต่างๆ ในการปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน อาทิ ส่วนเกี่ยวข้องกับ ทหาร ปกครอง ตำรวจ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำสู่การแก้ปัญหา และกำหนดเป็นมาตรการ การป้องกันให้พื้นที่เกิดความสงบสุข และส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติสุขพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

            ด้านพล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ เป็นไปตามกรอบสร้างความเข้าใจกับที่ปรึกษา ส่งเสริมความยุติธรรมพื้นที่ ส่วนใหญ่ เป็นผู้นำ หรือ ตัวแทนนักศาสนา หรือบุคคลที่มีบทบาทต่อการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งทั้งหมด จะเป็นบุคคลที่จะให้คำปรึกษา เพื่อให้เกิดความยุติธรรม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น กรณีการใช้ปฎิบัติการณ์ในพื้นที่ เพื่อรักษาความสงเรียบร้อย หรือมีเหตุความรุนแรง ในพื้นที่ชุมชน หมู่บ้าน การปฎิบัติที่อาจจะให้เกิดการผิดพลาด ก็จะมีที่ปรึกษาให้คำแนะนำ ในเรื่อง ความถูกต้อง เรื่อง ศาสนา วัฒนธรรม หรืออื่นๆ เพื่อลดผลกระทบและความไม่เข้าใจ  ให้การปฎิบัติเกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่าย

            ในส่วนข้อเสนอในที่ประชุม ผู้นำศาสนาและที่ปรึกษาฯ แม่ทัพกล่าวว่า ที่ประชุมได้หยิบยก ประเด็น กรณีเหตุเจ้าหน้าที่สำคัญผิด และใช้อาวุธปืนยิงชาวบ้านเสียชีวิต 3 ราย ที่เขาตะเว บ้านอาแน ต.บองอ อ.ระแง จ.นราธิวาส ในเรื่องดังกล่าว กองทัพภาคที่ 4 ได้ดำเนินการตรงไปตรงมา ผิดก็ว่าตามผิด ผู้เสียหายญาติ หรือทายาท จะต้องได้รับจ่ายเงินเยียวยาให้เหมาะสม และยืนยัน ทหารที่ก่อเหตุ ถูกดำเนินคดี ตามกระบวนกฎหมายยุติธรรม ชั้นศาลปกติ ไม่ใช่ศาลทหาร ที่บางฝ่ายให้ข่าวแต่อย่างใด จากนี้จะเป็นอำนาจขอศาลยุติธรรม ต้องเคารพอำนาจศาล

            นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย อย่าไปห้ามเกี่ยวหรือมีส่วนประโยชน์กับการค้ายาเสพติด เด็ดขาด หากพบจะต้องลงโทษสถานหนักไม่มีข้อละเว้น เพราะถือเป็นการสร้างเงื่อนไขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ และมาตรการการปรามปราม ยาเสพติด จะดำเนินการอย่างเข้มข้น กับผู้ค้า ซึ่งเป็นภัยแทรกซ้อน หรือจะเป็นท่อน้ำเลี้ยง และทำลายลูกหลานคนพื้นที่ ตลอดจนนำเป็นเครื่องมือสร้างสถานการณ์ความรุนแรง รวมถึงมาตรการ ยุทธการ หรือยุทธวิธี การปฎิบัติ ปราบปราม เพื่อจับกุม ผู้ก่อเหตุความไม่สงบ  การจำกัดเสรี กลุ่มก่อเหตุความรุนแรง ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จึงขอความร่วมมือกับประชาชนให้ข้อมูล แจ้งมาที่ แม่ทัพภาค 4 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง  “เรายืนยันว่า การใช้ความจริง และขจัดเงื่อนไข จะแก้ปัญหาความไม่สงบได้ และนำพาสันติสุขคืนพื้นที่ได้อย่างแน่นอน

ข่าว-รพี   นราธิวาส