เมืองพัทยาจัดรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1 จ้าง ม.เกษตรฯ ศึกษาออกแบบเพิ่มประสิทธิ ภาพระบบบำบัดน้ำเสียเมืองพัทยา/นาเกลือ

ที่โรงแรมเดอะไซมิส พัทยา จ.ชลบุรี (18 ก.พ.2565) นายอนุวัตร ทองคำ ผู้อำนวยการสำนักการช่างสุขาภิบาล เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุมสัมมนาโครงการและการรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1 โครงการจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาออกแบบรายละเอียดสำหรับโครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียพื้นที่พัทยาและนาเกลือ โดยว่าจ้าง ม.เกษตรการศาสตร์ ในการศึกษาวิเคราะห์ ออกแบบ วางแผนการก่อสร้าง งบประมาณ และแผนการเพิ่มประสิทธิภาพการบำบัดน้ำเสียเมืองพัทยาให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ที่จะสามารถรองรับปริมาณน้ำเสียที่จะเกดขึ้นในรอบ 10 และ 20 ปี หลังพบว่าระบบบำบัดน้ำเสียเดิมที่ใช้มานานกว่า 20 ปีมีสภาพชำรุดทรุดโทรมและสามารถรองรับการบำบัดน้ำเสียได้ไม่เพียงพอต่อปริมาณน้ำเสียที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต

ด้านนายพงศกร พันธ์พานิช ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบรวบรวมน้ำเสีย ม.เกษตรศาสตร์ กล่าวว่าสำหรับระบบบำบัดน้ำเสียเดิมของเมืองพัทยาที่ผ่านมามีอยู่ 2 แห่งได้แก่ โรงบำบัดน้ำเสียหนองใหญ่ ที่สร้างมาตั้งแต่ปี 2543 ซึ่งบำบัดน้ำเสียได้ในสัดสวน 65,000 ลบ.ม./วัน ส่วนโรงแรมบำบัดน้ำเสียจอมเทียน สามารถบำบัดได้ 43,000 ลบ.ม./ วัน อย่างไรก็ตาม สำหรับเมืองพัทยามีการขยายตัวทางเศรษฐกิจและชุมชนอย่างรวดเร็ว โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีสถานประกอบการ รวมทั้งประชาชนตามทะเบียนราษฎรและประชากรแฝงสูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนอยู่ที่ 2.09 แสนคน แต่จะเพิ่มเป็น 2.59 แสนคนในอีก 20 ปีข้างหน้า ขณะที่นักท่องเที่ยวก็จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 19.9 ล้านคน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 11.5 ล้านคน/ปี จึงเป็นที่คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำเสียจะมีปริมาณสูงขึ้นถึง 1.66 แสน ลบ.ม./ วัน ที่สำคัญการวางระบบรองรับน้ำเสียของเมืองพัทยายังไม่ครอบคลุมพื้นที่ของชุมชนนาเกลือและชุมชนกระทิงราย ซึ่งมีประชากรหนาแน่นเพิ่มขึ้น

ด้วยเหตุนี้เมืองพัทยาจึงจำเป็นต้องเร่งว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญให้เข้ามาศึกษา วิเคราะห์ ออกแบบระบบท่อรับน้ำเสียที่ครอบคลุม สถานีสูบ การจัดทำข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน การศึก ษาทางด้านเศรษฐศาสตร์และการเงิน รวมทั้งการวางแผนการวางแผนโครงสร้างการบำบัดน้ำเสีย รวมทั้งรูป แบบการบำบัดที่ประสิทธิภาพและการขยายปริมาณการรองรับน้ำเสียที่จะเกิดขึ้นให้มากกว่าเดิม โดยมีแผนในการเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับไว้ 1.7 แสน ลบ.ม./วันในระยะ 10-20 ปีข้างหน้า

หลังผลการศึกษาและวางแผนแม่บทแล้วเสร็จ โดยจะมีการประชุมรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนจำนวน 3 ครั้ง ก็อาจจะเป็นการขอจัดสรรงบประมาณลงทุนหรือการจัดทำแบบ PPP ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนระหว่างกาภครัฐและเอกชน ทั้งนี้มีสัญญาการส่งมอบงานในระยะเวลา 2540 วัน หรือภายในเดือนกรกฎาคม 2565 นี้.