วันพฤหัสบดี, มีนาคม 28, 2024
Latest:
+ท่องเที่ยวเศรษฐกิจ

ภาคท่องเที่ยวพัทยาส่ายหน้า รบ.เล็งเก็บ “ค่าเหยียบแผ่นดิน” ชี้ควรเร่งแผนดึงนทท. เข้าประเทศมากกว่าสร้างภาระค่าใช้จ่าย

จากกรณีที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยว่าในวันที่ 1 เมษายน 2565 ประเทศไทยจะเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมเข้าประเทศจากนักท่องเที่ยวคนละ 300 บาท ซึ่งเงินที่เรียกเก็บดังกล่าว เรียกว่า “ค่าเหยียบแผ่นดิน” อ้างว่าเพื่อจะนำไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในไทย และทำประกันให้แก่นักท่องเที่ยว เช่น กรณีประสบอุบัติเหตุหรือเสียชีวิต จะได้รับวงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท หรือค่ารักษาพยาบาล ได้รับสูงสุด 500,000 บาท เป็นต้น ซึ่งเบื้องต้นวางแผนเก็บรวมกับค่าตั๋วเครื่องบินในกรณีเดินทางทางอากาศ และอยู่ระหว่างการพิจารณาวิธีการเรียกเก็บจากการเดินทางทางบกนั้น

ด้าน นายบุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เปิด เผยเกี่ยวกับแนวคิดดังกล่าวข้างต้นว่าเรื่องนี้ภาคเอกชนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ควรทำอยู่แล้วแต่น่าจะจัดทำในอนาคต เพราะการดำเนินการลักษณะนี้ในช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และในช่วงเวลาที่ประเทศมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนน้อย อาจถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่เลือกเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เนื่องจากการเดินทางเข้ามายังไม่มีความชัดเจนทั้งในเรื่องของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด และค่าใช้จ่ายในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่มีอัตราสูงกว่าประเทศอื่นๆ ที่มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบอิสระ หรือบางประเทศจัดให้มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้นักท่องเที่ยวโดยไม่มีค่าใช้จ่าย รวมไปถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคด้วย ต่างจากประเทศไทยที่มีการเก็บค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ เกี่ยวกับมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ทุกรายการ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น

นายบุญอนันต์ กล่าวอีกว่าจนมาวันนี้รัฐบาลจะมีการประกาศจะเก็บค่าธรรมเนียมการเข้าประเทศ หรือ “ค่าเหยียบแผ่นดิน” จากนักท่องเที่ยวอีกรายละ 300 บาท แม้รัฐบาลจะมองว่าเกิดความเหมาะสมกับการหารายได้เข้าประเทศ แต่อาจจะไม่เหมาะสมกับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดขณะนี้ อะไรที่จะเป็นการเพิ่มรายจ่ายให้ผู้ที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ ส่วนตัวมองว่ายังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้ภาคเอกชนไม่ใช่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายการเก็บ “ค่าเหยียบแผ่นดิน” จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ควรจะรอเวลาที่เหมาะสมก่อนจึงค่อยจัดทำ ที่สำคัญหากจะมีการเรียกเก็บเงิน “ค่าเหยียบแผ่นดิน” แล้วก็ควรจะมีการบริการจัดการงบประมาณที่ได้มาอย่างชัดเจนด้วย ทั้งการจัดตั้งคณะกรรมการที่จะเป็นผู้ดูแล และใช้จ่ายงบประมาณก้อนนี้เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ดังนั้นช่วงเวลานี้รัฐควรจะเร่งสร้างความเชื่อมั่นในมาตรการ หาแนวทางส่งเสริมเพื่อดึงดูดนักท่องเทียวต่างชาติให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเสียก่อน จะเป็นแนวทางใดก็ได้ที่จะเป็นการจูงใจ

นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยาระบุอีกว่า ไว้เมื่อสถานการณ์การท่องเที่ยวกลับมาเป็นปกติและมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศดังเดิม รัฐบาลจะมีการเรียกเก็บ “ค่าเหยียบแผ่นดิน” อย่างใดก็สามารถทำได้ ด้วยประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพียงพอที่จะเลือกนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังประเทศได้แล้ว แต่ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่สามารถเลือกนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาได้ และการเก็บค่าเหยียบแผ่นดินไม่ได้การันตีในการคัดกรองคุณภาพของนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด แต่กลับเป็นการสร้างภาระให้กับนักท่องเที่ยวในทุกกลุ่มมากกว่า