วันพฤหัสบดี, มีนาคม 28, 2024
+บริหารท้องถิ่นสิ่งแวดล้อม

เมืองพัทยาเตรียมลุยรื้ออาคาร “บ้านสุขาวดี” รุกที่ 11 ไร่ หลังศาลปกครองไม่คุ้มครองชั่วคราว เสนอตั้งกรรมการเตรียมรื้อถอนตามอำนาจในเร็ววันนี้

จากกรณีที่เมืองพัทยานำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ “บ้านสุขาวดี” ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อปิดหมายประกาศยกเลิกคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และการปิดหมายประกาศคำสั่งแบบ ค.3, ค.4, ค.7 และ ค.10 บริเวณอาคาร 3 ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารเรื่องการระงับการใช้ ห้ามก่อสร้างดัดแปลง และให้ทำการรื้อถอนออกอาคารจากพื้นที่ตั้งแต่ปี 2562

ประกอบไปด้วย อาคาร A ซึ่งเป็นอาคารโครงเหล็ก 2 ชั้น ขนาด 18.30×55.30 เมตรจำนวน 1 หลัง และป้ายโครงสร้างเหล็กขนาด 10×13 เมตร จำนวน 2 ป้าย ซึ่งพบว่าเป็นการก่อสร้างบนพื้นที่สาธารณะหรือมีการบุกรุกที่ดินขนาด 11 ไร่ 1 งาน ส่วนอาคาร B เป็นอาคาร ค.ส.ล.1 ชั้น ขนาด 35×40 เมตร จำนวน 1 หลัง ที่พบว่ามีพื้นที่บางส่วนของอาคารก่อ สร้างทับแนวระยะถอยร่นจากระดับน้ำทะเล และอาคาร C ที่เป็นอาคาร ค.ส.ล.1 ชั้น ขนาด 5×15 เมตร จำนวน 1 หลัง ที่พบว่าทั้งอาคารอยู่ในแนวระยะถอยร่นจากระดับน้ำทะเลเช่นกันตามประกาศของกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีการออกคำสั่งลงนามโดย นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ถือเป็นการดำเนินงานในรอบที่ 2 หลังการออกประกาศคำสั่งที่ในครั้งแรก “บ้านสุขาวดี” ในนามของบริษัท เฮลท์ฟู้ดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ได้อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดชลบุรี ซึ่งผลพิจารณาปรากฏว่าประกาศคำสั่งเมืองพัทยายังไม่ครบองค์ประกอบและเหตุผลในการรื้อถอนไม่ครบถ้วนจึงให้มีการดำเนินการใหม่

อย่างไรก็ตามจากการที่เมืองพัทยาได้เริ่มต้นกระบวนการออกคำสั่งทางปกครองแบบนับ 1 ใหม่อีกรอบเพื่อให้เกิดความชัดเจน และครอบคลุมทั้งในด้านเนื้อหา ข้อมูลและหลักฐานประกอบเพื่อใช้ในการดำเนินการประกอบคำสั่งรื้อถอนอาคารที่มีการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตและอยู่ในพื้นที่สาธารณะ อีกทั้งการดำเนิน การครั้งใหม่ยังมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่มีการทำงานอย่างรัดกุมและรอบคอบ เนื่องจากมีการปรึกษาในส่วนของกลุ่มกฎหมาย และด้านต่างๆ อย่างรัดกุม อีกทั้งขั้นตอนทั้งหมดมีการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศ รวมทั้งการรัง วัดระวางที่ดินจากสำนักงานที่ดินอำเภอบางละมุง และพยานแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันได้มีการนำรั้วเหล็กไปปิดล้อมอาคาร A ไว้เพื่อระงับการใช้อาคารและรอความคืบหน้าผลการปฏิบัติทางกฎหมายแล้วนั้น

กระทั่งต่อมาจากการประชุมของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ จ.ชลบุรีของ “บ้านสุขาวดี” เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2564 ที่ผ่านมา ได้ผลสรุปชัดเจนเป็นมติแล้วเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2564 ว่าให้ยกคำอุทธรณ์ดังกล่าวด้วยระ บุว่าคำสั่งเมืองพัทยา ชอบด้วยกฎหมาย เมืองพัทยาจึงได้นำหนังสือคำสั่งที่เป็นมติยกคำอุทธรณ์ไปปิดประกาศไว้ที่ “บ้านสุขาวดี” อีกครั้ง ซึ่งตามกฎหมายจะให้ระยะเวลา “บ้านสุขาวดี” เป็นเวลา 30 วันได้ยื่นร้องต่อศาลปก ครองสูงสุดอีกครั้งถ้าหากเห็นว่ามติดังกล่าวไม่มีความเป็นธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าล่าสุด “บ้านสุขาวดี” ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองอีกครั้ง โดยระบุว่าคำสั่งเมืองพัทยาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งปรากฏว่าทางศาลปกครองได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ แต่ไม่ได้มีคำสั่งทุเลาหรือออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวอาคารแต่อย่างใด

กรณีนี้นายคริส เชิดสุริยา หัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคารสำนักการช่างเมืองพัทยา เปิดเผยว่าเมื่อศาลปกครองไม่ได้ออกคำสั่งคุ้มครอง เมืองพัทยาจึงมีสิทธิ์และอำนาจตามกฎหมายที่จะเข้าไปดำเนินการรื้อถอนอาคารได้ตามอำนาจในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการและจะเข้าไปรื้อถอนอาคารที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายในเร็วๆ นี้.