+covid-19ท่องเที่ยวเศรษฐกิจ

นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ชี้เริ่มมีสัญญาณดี หลังชลบุรีปรับสีจากแดงเข้มเป็นแดง ยิ่งเชื่อมั่นขึ้นหากจัดฉัดวัคซีนได้เร็วและครอบคลุม

หลังจากที่เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ศบค.ได้ประกาศปรับเปลี่ยนสีในพื้นที่ต่างๆขึ้น ส่งผลให้จังหวัดชลบุรี จากเป็น 1 ใน 6 จังหวัด สีแดงเข้ม ถูกประกาศเปลี่ยนเป็นสีแดง ทำให้กิจกรรมต่างๆที่ถูกล็อคหรือห้ามไม่ให้ทำ หรือไม่สามารถดำเนินการได้ ได้รับการผ่อนคลายลงหลายกิจกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการบริโภคอาหารภายในร้าน สามารถดำเนินการได้แล้วในส่วนของพื้นที่สีแดง

การเปลี่ยนสีพื้นที่จังหวัดชลบุรี จากพื้นที่สีแดง เป็นสีแดงเข้มนั้น นายบุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เผยว่า เป็นสัญญาณที่ดีที่กิจกรรมหลายกิจกรรมได้ถูกปลดล็อค และทำให้ประชาชนสามารถเดินหน้าในการประกอบกิจการได้ต่อไป ซึ่งสิ่งที่พบว่าพื้นที่สีแดงสามารถทำได้ คือเรื่องของการที่ประชาชนสามารถที่จะบริโภคอาหารภายในร้านได้ แต่ไม่เกินเวลา 23.00 น. และงดการจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นประเด็นที่ภาคธุรกิจ ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจในยุคคิด-19 ก็ไม่ดีอยู่แล้ว การใช้จ่ายต่างๆหลายคนมีการเซฟกันมากขึ้น ยิ่งพอมีการประกาศให้เป็นพื้นที่สีแดงเข้ม ให้ซื้ออาหารกลับไปทานที่บ้านได้อย่างเดียว เศรษฐกิจก็ยิ่งแย่ โดยเฉพาะร้านอาหารเล็กๆ ที่ต้องหารายได้เข้าร้านทุกวันยิ่งได้รับผลกระทบ

หลังจากที่พบว่ามีการคลายล็อคในวันนี้ ทำให้มองถึงภาพรวมว่าเศรษฐกิจในพื้นที่เมืองพัทยาน่าจะดีขึ้นตามลำดับ เพราะการคลายล็อคเหมือนการมองเห็นถึงความปลอดภัยของการแพร่ระบาดของโรคที่พบว่าลดลงจนภาครัฐเกิดการผ่อนคลาย อย่างไรก็ตาม เรื่องของการล็อคกิจกรรมต่างในช่วงการแพร่ระบาดของโรคถือว่าเป็นมาตรการที่ดีเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค แต่ส่วนตัวอยากที่จะให้มองเรื่องของภาพธุรกิจด้วย ซึ่งบอบช้ำกันมากในการสั่งห้ามกิจกรรมต่างๆ อาทิ การสั่งห้ามนั่งทานอาหารที่ร้าน ความเป็นจริงเป็นไปได้หรือไม่ ถ้ามีการเว้นระยะห่าง หรือการจำกัดจำนวนผู้ที่เข้าไปใช้บริการ โดยอยากจะให้ภาครัฐมองหรือออกมาตราการบังคับใช้เป็นในแต่ละพื้นที่มากกว่าออกมาตรการในภาพรวม เพื่อให้เกิดผลกระทบกับภาคธุรกิจให้น้อยที่สุด หรือสอบถามข้อมูลจากภาคเอกชนในพื้นที่ก่อนออกมาตรการต่างๆ เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดก็ยินดี เพราะปัจจุบันภาคเอกชนในพื้นที่เมืองพัทยาทั้งหมดพร้อมที่จะช่วยเหลือภาครัฐอย่างเต็มที่อยู่แล้ว

ส่วนในเรื่องของการฉีดวัคซีนให้กับภาคประชาชนและบุคลาการด้านการท่องเที่ยวในล็อตแรกนี้ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีของการท่องเที่ยว ยิ่งประชาชนในพื้นที่ได้รับการฉีดวัคซีนมากขึ้นเท่าไหร่ นั่นหมายถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่จะมากขึ้นตามไปเท่านั้น และการส่งเสริมท่องเที่ยวจะไปต่อได้เร็วขึ้น ดังนั้นในเรื่องของการเปิดเมืองเพื่อต้อนรับนักเที่ยวนั้นน่าจะอีกไม่นาน แต่ทั้งนี้ต้องมีการระดมในส่วนของความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ให้เข้ารับการฉีดวัคซีนในจำนวนที่มากพอ รวมถึงระดมวัคซีนในการที่จะมาฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่อำเภอบางละมุง

รวมถึงขั้นตอนในการลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีนก็เป็นเรื่องสำคัญ ควรให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงเรื่องของการฉีดวัคซีนง่ายขึ้น เพิ่มช่องทางในการเข้าถึงวัคซีนให้มากขึ้น เป็นไปได้ช้าสุดเดือนสิงหาคมนี้ประชากร 70 เปอร์เซ็นต์ในพื้นที่อำเภอบางละมุงจะต้องได้รับการฉีดวัคซีน ถึงจะทันฤดูการท่องเที่ยวที่จะเริ่มในช่วงเดือนตุลาคม 2564 นี้ แต่ถ้าหากช้ากว่านี้ก็คงต้องรอปี 2565 หรือ 2566 ไปเลย ก็จะยิ่งทำให้เสียโอกาศ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน ทั้งในเรื่องของวัคซีนที่จะมาต่อเนื่องหรือไม่ ร่วมถึงความร่วมมือของประชากรในพื้นที่ด้วย แต่ถ้าทุกฝ่ายร่วมกันดำเนินการอย่างรวดเร็ว เชื่อว่าการเดินหน้าเรื่องของธุรกิจการทอ่งเที่ยวในพื้นที่จะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ได้เร็วขึ้นเช่นเดียวกัน.