ทางหลวงชนบทระยอง จัดรับฟังเสียงชาวบ้าน ขยายถนนพื้นที่ปลวกแดง รองรับEEC
ที่ โรงเรียนบ้านภูไทร ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 ธ.ค.2562 สำนักก่อสร้างทาง กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม จัดประชุมชี้แจงเพื่อประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจและรับฟังความคิดเห็นการมีส่วนร่วมภาคประชาชน ในโครงการก่อสร้างถนนสายระยอง 2015 แยกทางหลวงสาย 36 ถึงทางหลวงสาย 331 อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง โดยมี นายอิทธิชาติ คำอุไร ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชน บทจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดการประชุม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่โครงการ บริษัทที่ปรึกษา และชาวบ้านผู้มีส่วนได้เสียเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
นายอิทธิชาติ คำอุไร ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทจังหวัดระยอง กล่าวว่าปัจจุบัน กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม ได้ว่าจ้าง บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นท์ จำกัด และ บริษัท ศิริไพบูลย์ พัฒนาการจำกัด เข้ามาดำเนินโครงการก่อสร้างถนน ค.ส.ล.สายระยอง 2015 แยกทางหลวงสาย 36 ถึงทางหลวงสาย 331 อ.ปลวกแดง จังหวัดระยอง ระยะทาง 11.465 กม. เพื่อเชื่อมต่อระบบโลจิสติกส์ระหว่างนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงการเดินทาง ขนส่ง การคมนาคม และการพัฒนาพื้นที่ตามแผน EEC เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมในประเทศ และโครงข่ายโลจิสติกส์ที่สมบูรณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัด EEC ได้แก่ ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง ทั้งนี้ที่ผ่านมาถนนสายดังกล่าวมีสภาพชำรุดทรุดโทรมอย่างมาก ทั้งๆที่เป็นสายทางสำคัญในระบบโครงข่ายการขนส่งระหว่างนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ และนิคมอุตสาหกรรมอีสเทอร์นซีบอร์ด ที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ซึ่งมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับโครงการนี้จะมีการก่อสร้างปรับปรุงขยายพื้นผิวจราจรจากเดิมขนาด 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่อง ทางจราจรแบบคอนกรีตเสริมเหล็กหนา 0.28 เมตร ผิวจราจรกว้าง 3.50 เมตรต่อ 1 ช่องจราจร พร้อมไหล่ทางข้างละ 1-2 เมตร รวมถึงการก่อสร้างสะพานลอยข้ามคลอง 2 แห่ง ปรับปรุงขยายสะพาน 1 แห่ง และการก่อ สร้างสะพานลอยอีก 1 แห่ง บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านภูไทรระยะความยาว 25 เมตร รวมถึงการดำเนินก่อสร้างระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ระบบสาธารณูปโภค ระบบระบายน้ำและระบบอำนวยความปลอดภัย ซึ่งมีระยะเวลาการดำเนินงานระหว่างวันที่ 19 สิงหาคม 2562-3 กุมภาพันธ์ 2565 รวม 900 วันในงบประมาณ 447 ล้านบาท
ทั้งนี้ การจัดทำกิจกรรมการประชุมครั้งนี้ เพื่อนำเสนอความคืบหน้า วัตถุประสงค์ ความเป็นมา และการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนซึ่งถือเป็นการมีส่วนร่วมอย่างจริงจัง เพื่อนำไปพัฒนาปรับปรุงแก้ไขให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งการทำ MOU ร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย ได้แก่ กรมทางหลวงชนบท ผู้รับจ้าง และภาคประชาชน เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพครอบคลุมทุกมิติ ซึ่งจะจัดขึ้นจำนวน 3 ครั้งระหว่างดำเนินโครงการ ซึ่งภายหลังการประชุมชาวบ้านได้ซักถามความคืบหน้าโครงการ รายละเอียดในเรื่องของการเวนคืน รวมการจัดการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค ระบบความปลอดภัยทั้งก่อนและหลังโครงการแล้วเสร็จ.