วันอังคาร, มีนาคม 4, 2025
Latest:

ผอ.ททท พัทยา เผยพัทยายังไม่มีการรับแจ้ง โรงแรมทุจริตโครงการเที่ยวด้วยกัน

จากกรณีที่มีกระแสข่าวการโรงแรมทุจริตโครงการเที่ยวด้วยกัน โดยพบว่าปัจจุบันมีข้อสงสัยกว่าโรงแรมกว่า 500 แห่งทั่วประเทศนั้น ล่าสุดทางด้าน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้แจ้งความดำเนินคดีกับโรงแรมที่เข้าข่าย โดยมีกองบังคับการปราบปราม เป็นผู้รับผิดชอบคดี และเสนอตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวน เพื่อให้พนักงานสอบสวนทั่วประเทศได้ร่วมกันดำเนินคดี เร่งทำการตรวจสอบนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้โครงการเฟสใหม่ชะลอ และไม่อยากให้มีการทุจริตเกิดขึ้นอีก

สำหรับพฤติกรรมในการทำธุรกรรมที่น่าสงสัย มีทั้งหมด 6 รูปแบบด้วยกัน 1. ผู้ใช้สิทธิเข้าเช็กอินในโรงแรมราคาถูก แต่ไม่ได้เข้าพักจริง เพื่อต้องการได้สิทธิคูปองไปใช้จ่าย 2. โรงแรมขึ้นราคาค่าห้องพักสูงเกินจริง มีการรู้เห็นกับร้านค้าที่รับชำระคูปอง และมีการขายโอนสิทธิให้กัน โดยผู้ได้สิทธิร่วมมือกับโรงแรม 3. โรงแรมที่ปิดตัวลงไปแล้ว มีการเปิดลงทะเบียนขายห้องพักโดยตรง และผ่านตัวแทนออนไลน์ (โอทีเอ) 4. ผู้ใช้สิทธิมีการใช้ส่วนต่างของคูปอง เต็มจำนวน กรณีร้านค้าเพิ่มราคาค่าสินค้าและอาหาร จากราคาปกติ 5. ผู้ใช้สิทธิเข้าพักจริง แต่เป็นแบบกรุ๊ปเหมา มีการจองห้องพักโดยตรงกับทางโรงแรมที่ตั้งราคาห้องพักในราคาสูง และรับเงินส่วนต่างภายหลัง และ 6. โรงแรมบางแห่งเปิดขายห้องพักเกินจำนวนจริงที่มีอยู่ นำไปขายต่อให้กับโรงแรมอื่น เพื่อรับผลประโยชน์จากเงินส่วนต่าง

นายขจรเดช อภิชาติตรากุล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงจำนวนโรงแรมที่เข้าข่ายทุจริตโครงการเที่ยวด้วยกันนั้น พบว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งจากส่วนกลางว่ามีโรงแรมในพื้นที่พัทยาเข้าข่าย ซึ่งถือว่าเป็นความโชคดีของชาวพัทยา ที่พบว่าที่ผ่านมาทางเมืองพัทยาเองก็ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวมาโดยตลอด จึงทำให้โรงแรมทุกโรงแรมในพื้นทีเมืองพัทยา ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทุจริตโครงการเที่ยวด้วยกัน ซึ่งที่ผ่านมา ตั้งแต่งานพลุพัทยา และ งานเทศกาลดนตรี ก็พบว่าโรงแรม และ ห้องพักต่างๆในพื้นที่เต็มเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็ไม่น่าจะมีความจำเป็นในการที่จะดำเนินการทุจริต

ปัจจุบันนี้ทางภาครัฐได้ยุติการใช้สิทธิ์เที่ยวด้วยกันก่อน จนกว่าการดำเนินการสอบสวนจะชัดเจน ทั้งนี้การยุติการใช้สิทธ์เที่ยวด้วยกันปัจจุบันก็ไม่มีผลอะไร ทั้งนี้เนื่องจากว่าสิทธิ์ห้องพักที่ภาครัฐได้ให้ไว้ในโครงการเที่ยวด้วยกันนั้นได้ถูกใช้ไปจนหมดแล้ว จะเหลือก็เพียงสิทธิ์ของการจองตั๋วเครื่องบินที่ยังคงเหลือกว่า 1.5 ล้านที่นั่ง อย่างไรก็ตามโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 2 ก็ยังคงจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว แต่ก่อนที่จะดำเนินการเปิดโครงการก็น่าจะมีการปรับปรุงในส่วนของขั้นตอนในการดำเนินการ เพื่อไม่ให้เกิดการทุจริตเกิดขึ้นได้อีกต่อไป โดยผู้ที่ทุจริตก็จะถูกดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนผู้ใช้สิทธิ์นั้นก็คงต้องมาทำการสอบสวนและพิจารณาเป็นรายๆว่ามีเจตนาในการกระทำความผิดหรือไม่ต่อไป.