+กรมเจ้าท่าชุมชน

กรมเจ้าท่า ทุ่มงบ 586 ลบ.เดินเครื่องเสริมทรายชายหาดจอมเทียน ระยะ 1

ที่ โรงแรม ดี วารี จอมเทียน บีช นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาระดับจังหวัดกรมเจ้าท่ากับการท่องเที่ยววิถีใหม่ชายหาดยั่งยืน โครงการเสริมทรายชายหาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี ระยะที่ 1 พร้อมด้วย นายบรรลือ กุลละวณิชย์ รองนายกเมืองพัทยา นายสมพงษ์ สายนภานายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาจอมเทียน ศ. ดร. ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล ประธานกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นักวิชาการและผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐเอกชน เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่าการประชุมสัมมนาระดับจังหวัดกรมเจ้าท่ากับการท่องเที่ยววิถีใหม่ชายหาดยั่งยืน โครงการเสริมทรายชายหาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี ระยะที่ 1 ในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับทราบข้อมูลของโครงการ มาตรการลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรายละเอียดต่างๆ ของโครงการฯ รวมทั้งมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบจากการดำเนินโครงการดังกล่าว ที่กรมเจ้าท่าร่วมมือกับสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศึกษาถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะของชายหาดท่องเที่ยวในหลายรูปแบบ ผ่านกรณีศึกษาของทั้งในและต่างประเทศ และผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งสรุปได้ว่าวิธีการเสริมทรายเป็นวิธีการที่ดีที่สุดและมีความเหมาะสมกับปัญหาของชายหาดท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยมีตัวอย่างความสำเร็จของโครงการเสริมทรายชายหาดพัทยา ระยะทาง 2.8 กิโลเมตร ตั้งแต่ชายหาดพัทยาเหนือจนถึงชายหาดพัทยา ที่ได้รับกระแสการตอบรับที่ดีมาก ทั้งจากนักท่องเที่ยวประชาชนพ่อค้าแม่ค้าและผู้ประกอบการต่างๆ ในพื้นที่

ส่วนการดำเนินโครงการงานเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน ระยะที่ 1 มีพื้นที่โครงการอยู่ในเขตชุมชนหนาแน่น อีกทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง มีการประกอบกิจกรรมหลากหลายประเภทในพื้นที่โครงการ การดำเนินงานก่อสร้างจึงอาจก่อให้เกิดผลกระทบกับประชาชนได้ ดังนั้นเพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนและสอดคล้องกับตามมาตรการผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ปรากฏในรายงานคณะกรรมการกำกับดูแลและติดตามการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่อำเภอบางละมุงและอำเภอสัตหีบจังหวัดชลบุรี จึงจำเป็นต้องมีการประชาสัมพันธ์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจตลอดจนทัศนคติที่ดีต่อโครงการให้เกิดขึ้นกับผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ได้รับรู้และมีความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการและแสดงความคิดเห็นต่อการดำเนินโครงการ

อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยอีกว่า สำหรับโครงการงานเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน ระยะที่ 1 ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 586,047,000 บาท โดยกรมเจ้าท่าว่าจ้างให้ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับผิดชอบทำการเสริมทรายชายหาดจอมเทียน โดยเริ่มการทำงานตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2563 จนถึง 15 พฤศจิกายน 2565 เป็นระยะเวลา 900 วัน สำหรับแหล่งทรายที่จะใช้เสริมชายหาดจอมเทียนนำมาจากบริเวณทิศตะวันตกของเกาะรางเกวียน ซึ่งอยู่ห่างจากชายหาดจอมเทียนออกไปประมาณ 15 กิโลเมตร และเป็นแหล่งเดียวกับที่ใช้เสริมทรายชายหาดพัทยามาแล้ว คาดว่าจะใช้ทรายรวมทั้งสิ้นประมาณ 6.4 แสน ลบ.ม. หลังจากโครงการก่อสร้างเสริมทรายชายหาดจอมเทียน เสร็จสิ้น ชายหาดจะมีความกว้างเฉลี่ย 50 เมตร และจะส่งผลให้ธุรกิจอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเมืองพัทยากลับมาคึกคักอีกครั้ง ด้วยปริมาณนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 9 ล้านคนต่อปี สร้างรายได้ให้กับประเทศมากถึงปีละกว่า 6 หมื่นล้านบาท และจากผลการศึกษาพบว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวมีความคุ้มค่าเงิน 1 บาท ที่ลงทุนไปในการเสริมทรายชายหาดจอมเทียนจะสร้างเม็ดเงินกลับคืนมาในระบบประมาณ 3.20 บาท.