โฆษกทร.แจงเตรียมตั้งกก.สอบกรณีนาวาเอกกรมอุทกฯ ติดโควิด-19 กลับบ้านนครพนม ไม่กักตัว-โผล่งานผ้าทอดผ้าป่า
เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2564 พลเรือเอก เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่าตามที่มีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวนายทหารเรือติดเชื้อไวรัส COVID-19 จากการท่องเที่ยวสถานบันเทิงย่านทองหล่อ และเดินทางไปทอดผ้าป่าที่นครพนมโดยไม่มีการป้องกัน รวมทั้งต้นสังกัดไม่ได้กำกับดูแลนั้น กองทัพเรือขอชี้แจงในประเด็นดังกล่าวดังนี้
การจากสอบสวนทีมสอบสวนโรคของกรมแพทย์ทหารเรือ เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2564 สรุปได้ว่า นายทหารของกรมอุทกศาสตร์ ชั้นยศนาวาเอก ได้ไปสถานที่ท่องเที่ยวเป็นร้านอาหารพร้อมดนตรีสดในย่านเอกมัย ชื่อร้านเดอะ คลาสเซ็ตต์ มิวสิค บาร์ ร่วมกับเพื่อนภายนอกกองทัพ ในคืนวันศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2564 ระหว่างเวลา 21.26-24.00 น. จึงได้เดินทางกลับไปโรงแรมบุญสิริ เพลส ณนนบูรณศาสตร์ เขตพระนคร หลังจากนั้นในระหว่าง 27 มีนาคม-7 เมษายน 2564 ได้ดำเนินชีวิตตามปกติ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 ได้รับทราบจากเพื่อนภายนอกที่ไปเที่ยวด้วยกันว่า ติดโควิด จึงไปตรวจหาเชื้อที่ โรงพยาบาลสมเด็จปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ในเช้าของวันที่ 9 เมษายน 2564 และทราบผลตรวจว่าติดเชื้อโควิดในเวลา 21.00 น.ของวันเดียวกัน ในวันต่อมา (10 เม.ย.64) ได้เข้ารักษาตัวที่ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ
สำหรับกรณีของนายทหารของกรมอุทกศาสตร์ ชั้นยศนาวาตรี ได้ไปสถานที่ท่องเที่ยวเป็นผับแห่งหนึ่งในย่านรัชดา ชื่อ ดูไบ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 2 เมษายน 2564 ตั้งแต่เวลา 21.00-01.00 น.โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 5 เมษายน 2564 ได้เดินทางไปทำงานปกติ กระทั่งเวลา 10.00 น.ได้รับการแจ้งจากเพื่อนคนหนึ่งที่ไปเที่ยวด้วยกันเมื่อคืนวันที่ 2 เมษายน 2564 ว่า ติดเชื้อโควิด จึงได้ขออนุญาตผู้บังคับบัญชา มากักตัวเฝ้าดูอาการของตนเองภายในห้องพัก คอนโดมิเนียมย่านบางนา ต่อมาในวันที่ 7 เมษายน 2564 เริ่มมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวแต่ยังไม่ไปพบแพทย์ กระทั่งวันที่ 8 เม.ย.64 เวลา 22.30 น.อาการไม่ดีขึ้น จึงตัดสินใจไปพบแพทย์โดยขับรถส่วนตัวไปยัง โรงพยาบาล ปิยะเวท เพื่อให้แพทย์สอบถามอาการ ประวัติความเสี่ยง ตรวจหาเชื้อโควิด หลังจากนั้น จึงขับรถส่วนตัวเดินทางกลับมายังห้องพัก เพื่อกักตัวรอผลการตรวจต่อไป และต่อมาในวันที่ 9 เมษายน 2564 ทาง โรงพยาบาลปิยะเวท แจ้งผลการตรวจ ว่า ติดเชื้อโควิด และส่งรถมารับ และส่งเข้ารับการรักษาต่อยังรพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ
ทั้งนี้ นายทหารทั้ง 2 นาย ได้รายงานไทม์ไลน์ให้กรมอุทกศาสตร์ ซึ่งเป็นหน่วยต้นสังกัดทราบ เพื่อให้กรมอุทกศาสตร์รายงานให้กับ ศูนย์ตอบโต้ภาวะฉุกเฉินโควิด-19 กองทัพเรือ / ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ (ศปก.ทร.) ทราบ รวมทั้งได้ประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งกำลังพลของ กรมอุทกศาสตร์ ที่มีโอกาสความเสี่ยงที่ไปสัมผัสตัว/อยู่ใกล้ชิด/อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับผู้ป่วยยืนยันดังกล่าว ให้รับทราบและกักตัวอยู่ที่บ้านรอการสอบสวนโรคจากกรมแพทย์ทหารเรือต่อไป
โฆษกกองทัพเรือเปิดเผยว่า จากข้อมูลการสอบสวนโรค ทราบว่า สถานที่ท่องเที่ยวที่ทั้ง 2 นายทหารไปเที่ยวนั้น ไม่ใช่ผับหรูในย่านทองหล่อตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด รวมทั้งเมื่อทราบว่าตัวเองเป็นผู้ป่วยยืนยันติดโควิด ก็ได้รีบเข้ารักษาตัว ณ รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า ในโอกาสแรก ตามไทม์ไลน์ที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ไม่ได้เดินทางไปไหนต่อยังต่างจังหวัดแต่อย่างใด โดยเมื่อกรมอุทกศาสตร์ได้รายงานให้กองทัพเรือ (ผ่านศูนย์ตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน COVID-19 กองทัพเรือ/ศปก.ทร.) เกี่ยวกับกรณีนายทหารของกรมอุทกศาสตร์ทั้ง 2 นาย ติดเชื้อโควิดทราบในวันที่ 10 เม.ย.64 แล้วนั้น ศูนย์ตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน COVID-19 ทร. ได้สั่งการให้ กรมแพทย์ทหารเรือจัดทีมเข้าสอบสวนโรคต่อกำลังพลของกรมอุทกศาสตร์ เพื่อทำการคัดกรองผู้มีความเสี่ยงสูง ซึ่งผลการสอบสวนและคัดกรองปรากฏว่ามีผู้มีความเสี่ยงสูงจำนวน 30 นาย และได้รายงานผลการสอบสวนให้ ศูนย์ตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน COVID – 19 ทร. ทราบในวันที่ 11 เมษายน 2564 ต่อมาในวันที่ 12 เมษายน 2564 ศูนย์ตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน COVID-19 ทร.ได้สั่งการให้กลุ่มคนมีความเสี่ยงสูงดังกล่าว เดินทางไปกักตัวเฝ้าดูอาการ ณ อาคารรับรองสัตหีบ ภายในเวลา 16.00 น.ของวันเดียว กัน โดยให้กักตัวตั้งแต่ 12-23 เมษายน 2564 ซึ่งปัจจุบันผู้มีความเสี่ยงสูง 27 นาย เดินทางไปกักตัว ณ อาคารรับรองสัตหีบ เรียบร้อยแล้ว
ยกเว้นกำลังพล 3 นาย ที่ขออนุญาตกักตัวอยู่ที่ภูมิลำเนาต่างจังหวัด และในส่วนของผู้ที่มีความเสี่ยงสูงอีก 3 นาย ขออนุญาตกักตัวอยู่ที่ภูมิลำเนาต่างจังหวัด ได้แก่ นครพนม อุตรดิตถ์ และ สุราษฎร์ธานี เนื่องจากทั้ง 3 นาย ได้ขออนุญาตหน่วยต้นสังกัดเดินทางกลับต่างจังหวัดเพื่อเยี่ยมภูมิลำเนาบ้านเกิด ซึ่งมาทราบภายหลังว่า นายทหารชั้นยศนาวาเอก ที่เป็นผู้ยืนยันติดเชื้อโควิด ทราบผลในเวลา 21.00 น.ของวันที่ 9 เมษายน 2564 ซึ่งขณะนั้นกำลังพลทั้ง 3 นาย เดินทางถึงภูมิลำเนาเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ กำลังพลดังกล่าว 3 นาย ได้ขอกักตัวเฝ้าดูอาการอยู่ที่ภูมิลำเนา ตั้งแต่ 10-23 เมษายน 2564 เพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อในระหว่างเดินทาง โดยทั้ง 3 คนได้เข้าสู่มาตรการเฝ้าระวังของจังหวัด (ผ่าน อสม.) รวมทั้งทาง สจจ.แต่ละจังหวัด จะดำเนินการนำกำลังพลดังกล่าวตรวจหาเชื้อตามเวลาที่เหมาะสมต่อไป
สำหรับกรณีที่มี นายทหารของกองทัพเรือ ในสังกัด กรมอุทกศาสตร์ ชั้นยศนาวาเอก เดินทางไปร่วมงานทอดผ้าป่าที่จังหวัดนครพนม และทราบภายหลังว่าติดเชื้อ COVID -19 เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 นั้น เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 ได้รับประทานอาหารกับผู้ติดเชื้อ (ทานแค่ผลไม้)ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้ขอตัวเนื่องจากต้องเดินทางออกต่างจังหวัดเวลา ประมาน 18.00 น. โดยลงเครื่องบินที่ จังหวัดสกลนคร เพื่อเดินทางต่อมาที่ อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม โดยรถยนต์ส่วนบุคคล เมื่อมาถึงบ้านที่อำเภอนาแก ได้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน ให้ทราบว่าได้เดินทางเข้าพื้นที่ เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนของจังหวัด (การเดินทางสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา) ต่อมาในวันที่ 9 เมษายน 2564 ได้เดินทางไปจังหวัดนครพนมเพื่อไปดื่มกาแฟและรับประทานอาหาร เป็นร้านปลาเผาไม่มีชื่อ แต่นั่งแยกโต๊ะ ไม่ได้เข้าไปในห้องแอร์แล้วกลับมาที่บ้านญาติที่ อำเภอนาแก เพื่อเตรียมจัดสถานที่ทำผ้าป่าสามัคคี แล้วรีบกลับเข้ามาพักที่บ้าน หลังจากทราบว่า ได้ร่วมรับประทานอาหารกับผู้มีเชื้อโควิด โดยในวันที่ 10 เมษายน 2564 อสม.ได้เข้ามาสอบถามประวัติ ถ่ายรูป วัดอุณหภูมิ ตามขั้นตอน และวันที่ 11 เมษายน 2564 ได้เดินทางไปร่วมงานถวายผ้าป่า ที่วัดศรีจำปาบ้านช่ง อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม (นั่งอยู่ข้างนอก ที่โล่งแจ้ง ไม่ได้เข้าไปในพระอุโบสถ) และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา จากนั้นได้กักตัวอยู่ที่บ้านพักตลอดเวลาเพื่อสังเกตอาการ โดยมี อสม.มาตรวจสุขภาพ โดยในวันที่13 เมษายน 2564 สาธารณสุขจังหวัด นครพนม ได้เก็บตัวอย่างเพื่อหาเชื้อโควิด ซึ่งจะทราบผลภายใน 48 ชั่วโมง
กองทัพเรือขอแสดงความเสียใจในการที่กำลังพลของกองทัพเรือได้มีส่วนทำให้มีการแพร่เชื้อโควิดเพิ่มมากขึ้นและจะตั้งกรรมการสอบสวนกรณีดังกล่าว หากพบว่ามีการละเลยไม่ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาลและกองทัพเรือแล้วจะดำเนินการลงโทษโดยไม่ละเว้น
ก่อนหน้านี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้หน่วยต่างๆ ในกองทัพเรือ เตรียมความพร้อมในการรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ โดยเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาล/สถานพยาบาล/โรงพยาบาลสนาม เพิ่มเติมเพื่อรองรับการแพร่ระบาด และยังให้จัดตั้งคลินิกให้บริการวัคซีน โควิด ให้กับกำลังพล และประชาชนทั่วไป มีการจัดทีมสอบสวนโรค เมื่อพบผู้ป่วยต้องสงสัยในพื้นที่ที่กองทัพเรือรับผิดชอบ และให้มีการจัดทีมคัดกรอง และตรวจ เมื่อได้รับการประสานให้มีการสนับสนุนเพิ่มเติมกับหน่วยงานภายนอก
โฆษกกองทัพเรือกล่าวต่อไปว่า ผู้บัญชาการทหารเรือเน้นย้ำให้ข้าราชการกองทัพเรือ เพิ่มความระมัดระวังทั้งแก่ตนเองและสมาชิกในครอบครัวในช่วงสถานการณ์การแพร่ ระบาดระลอกใหม่ของเชื้อ COVID-19 โดยการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคระบาดตามที่รัฐบาลกำหนด และมาตรการเพิ่มเติม 18 ข้อ ตามที่ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการ เมื่อวันที่ 7 เม.ย.64 ที่ผ่านมา โดยอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 8 เม.ย.64 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ โดย ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง กองทัพเรือ ได้แจ้งไปยังหน่วยขึ้นตรงของกองทัพเรือ ให้กำลังพลได้รับทราบและเข้มงวดและกวดขันการตรวจการตามแนวทางการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในห้วงเทศกาลสงกรานต์ ของ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง รวมถึง ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ โดย ศูนย์ตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน COVID – 19 ทร. ได้ออกมาตราการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในห้วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อเน้นย้ำการปฏิบัติตัวของกำลังพลกองทัพเรือในระหว่างวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์
ทั้งนี้ สำนักตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ได้มีหนังสือขอความอนุเคราะห์ให้ใช้ โรงพยาบาล สนาม ในพื้นที่กองทัพเรือ ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์การฝึก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (เกล็ดแก้ว จังหวัดชลบุรี) หน่วยบัญชาการกองพลนาวิกโยธิน (ค่ายมหาเจษฎาฯ จังหวัดชลบุรี) และ สนามฝึก กองทัพเรือ หมายเลข 16 บ้านจันทเขลม จังหวัดจันทบุรี (รวมจำนวนเตียงทั้งหมด 726 เตียง) นับตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2564 เป็นต้นไป ปัจจุบัน (13 เม.ย.64) ได้มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลสนาม ศูนย์การฝึก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (เกล็ดแก้วจังหวัดชลบุรี) จำนวน 193 ราย (ผู้ชาย 90 ราย และผู้หญิง 103 ราย) ยังคงเหลือจำนวน 533 เตียง
ภาพ/ข่าว สำนักงานโฆษกกองทัพเรือ // นิราช-นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน.