สาวใหญ่ใจสู้ยึดอาชีพรับซ่อมเสื้อผ้า ส่งเสีย 3 ชีวิตจนถึงฝั่ง
ปัจจุบันนี้ ผู้บริโภคนิยมซื้อเสื้อผ้าตามร้านทั่วไป แต่อย่าลืมว่าเสื้อผ้าที่ซื้อไปแล้วนั้น ต้องมีการชำรุด หรือไม่ได้มาตรฐาน ไม่ตรงตามสัดส่วนของร่างกาย หลวมบ้าง เอวใหญ่บ้าง หรือขายาวบ้าง ใส่วันเดียวซิปแตก ปัญหาเหล่านี้แหละจะเปิดโอกาสให้กับร้านตัดเย็บและเปลี่ยนทรงเสื้อผ้าทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ
นางสาวมะลิ บุผาโต อายุ 51 ปี พื้นเพชาวบุรีรัมย์ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ได้เล่าเรื่องราวของตัวเองก่อนจะมาจับอาชีพรับซ่อมแซมเสื้อผ้า จนสามารถส่งเสียลูกจนจบระดับปริญญาตรี เพียงลำพังด้วยความภาคภูมิใจว่า เห็นท่าทางคล่องแคล่ว ขีดโน้น เขียนนี่ บนเสื้อผ้า จริง ๆ แล้ว ตัดเย็บไม่เป็น เพราะเสื้อผ้าต้องมีแพทเทิร์น มีแบบ ทำได้เพียงซ่อมแซมเสื้อผ้าเท่านั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยทำงานมีประสบการณ์เป็นสาวโรงงานเย็บผ้ามาหลายปี และยังเคยรับผ้ามาเย็บที่บ้าน แต่หลังจากเลิกรากับสามี ทำให้รายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย อีกทั้งต้องเลี้ยงดูลูกชายหญิงเพียงลำพัง 3 คน ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่เป็นไปด้วยความแร้นแค้น กอปรกับได้ยินข่าวลือมาว่าหากมาพัทยา ได้สามีต่างชาติก็จะชีวิตมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จึงตัดสินใจทิ้งบ้านเกิดเดินทางมายังเมืองพัทยา โดยมายึดอาชีพเป็นกุ๊กที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ควบคู่ไปกับการรับจ้างซ่อมแซมเสื้อผ้า แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเจอเนื้อคู่ชาวต่างชาติ เนื่องจากอยู่แต่ในครัว เจอก็แต่สามีชาวไทยคนปัจจุบันคนนี้เท่านั้น (พูดไปยิ้มไป) ที่ยังเป็นโสดแต่ด้วยความที่สามีคนนี้มีความรับผิดชอบ ขยันการงาน จึงช่วยกันเก็บหอมรอมริบจนส่งลูกสาวคนโตเรียนจนจบปริญญาตรี ส่วนคนอื่น ๆ ก็สำเร็จการศึกษาตามกำลังที่เรียนได้
หลังจากเริ่มมีหลานมาให้เลี้ยงดู จึงได้คิดออกจากงาน โดยมายึดอาชีพซ่อมแซมเสื้อผ้า เนื่องจากเป็นอาชีพทิ่อิสระการลงทุนก็ไม่มาก ซื้อเพียงจักรอุตสาหกรรมมือสองทั้งโพ้ง และเย็บ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเย็บผ้า และด้ายสีต่าง ๆ ก็สามารถรับเย็บผ้าได้แล้ว อีกทั้งยังมีเวลาเหลือเฟือสำหรับดูแลหลาน โดยใช้พื้นที่หน้าบ้านเช่ารับตัดเย็บ สนนราคาเริ่มต้นที่ 10 บาท ไปจนถึงหลักร้อย ขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการซ่อมแซม และบางครั้งก็ยังให้คำปรึกษาลูกค้าว่า เสื้อผ้าตัวใดสมควรซ่อมแซม หรือควรที่จะไปซื้อใหม่ สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าเป็นอย่างมี จนมีลูกค้าทั้งขาประจำและขาจร ทำให้มีรายได้ก่อนสถานการณ์โควิด ตกวันละประมาณ 600 บาท แต่ในช่วงสถานการณ์โควิด บางวันแทบไม่มีรายได้เลยก็มี
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงทุกคนอย่าท้อถอยในการต่อสู้ชีวิต ทุกอาชีพมีคุณค่าในตัวของมันเอง หากขยัน อดทน ประหยัด ก็สามารถมีเงินเป็นกอบเป็นกำได้เหมือนกัน อาจจะมีไม่มากเหมือนคนอื่น แต่ชีวิตก็พออยู่พอกิน ไม่ขัดสน
ข่าว/ภาพ – สิริกิริยา