อาชญากรรม

โผล่อีกราย! ร้านทองเหยื่อแก๊งจำนำทองปลอม เสียหายกว่า1.2 ล้านบาท

จากกรณีนายกฤษ เทียนใหม่ และนางอนัดดา เทียนใหม่ สองสามีภรรยา เจ้าของห้างทองนิตเทียน นำทองปลอมหนักกว่า 376 บาท พร้อมภาพจากกล้องวงจรปิด เข้าแจ้งความที่ สภ.หนองปรือ ว่าช่วงที่ทองราคาขึ้นนั้นได้มีกลุ่มมิจฉาชีพนำทองปลอมชุบเงินแบบหนามาจำนำที่ร้าน เป็นเวลารวม 1 เดือนกว่า มูลค่าเสียหายเงินกว่า 9 ล้านบาท

ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 17 ส.ค.63 ผู้เสื่อข่าวรายงานว่ามีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อกลุ่มมิจฉาชีพแก๊งนี้เพิ่มอีกรายคือ นายสามารถ แจ่มเจริญ อายุ 23 ปี ผู้ประกอบการร้านทองแม่มาลี ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่เปิดเผยว่า กรณีของตน เหตุเกิดตั้งแต่ราคาทองยังไม่ได้ขึ้นสูงมาก เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จนถึงประมาณวันที่ 11 มิถุนายน ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพจะส่งคนมาเรื่อย ๆ สลับหน้ากันมา บางทีมาตอนเช้า ตอนบ่ายเป็นอีกคน ช่วงเย็นก็เป็นอีกคน ด้วยความที่ทองดูเหมือนจริงมาก หัวตะขอหัวตรวจก็เป็นของจริงและมิจฉาชีพกลุ่มนี้ทำการชุบทองมาหนามาก ซึ่งตนเองได้ถามถึงบัตรประชาชนก่อนรับจำนำแต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงโดยอ้างว่าลืมนำมาทุกครั้ง ทางร้านจึงอนุโลมให้ กว่าจะมารู้ว่าเป็นทองปลอม ก็เป็นเวลานานเกือบ 2 เดือน คือในวันที่ตัดยอด เพื่อนำทองไปส่งที่ร้านย่านเยาวราชให้เข้าสู่ขบวนการหลอม จึงทำให้ทราบว่าเป็นทองปลอม จากนั้นจึงกลับมาตรวจสอบที่ร้าน พบมีการจำนำทองปลอมน้ำหนักรวมทั้งสิ้น 54 บาท มูลค่าความเสียหายกว่า 1,200,000 บาท

นายสามารถ กล่าวอีกว่าหลังจากทราบว่าถูกหลอกก็ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.บางละมุง แต่ยังไม่ได้นำเสนอออกสื่อใด ๆเพราะหวังว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาอีกครั้งตนจะได้ให้ตำรวจจับตัวไว้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ทราบว่าผู้ประกอบการร้านทองรายอื่นจะโดนเหมือนกับตัวเอง ส่วนตัวแล้วคิดว่าทองปลอมชุดนี้ ปลอมได้เหมือนมาก มีส่วนผสมของทองจริงอยู่ด้วย แม้กระทั่งในเรื่องของน้ำหนักทองทางร้านไม่สามารถดูออกเลย ถ้าไม่ได้ทำการเฉือนทอง ซึ่งก็ไม่สามารถทำได้หากลูกค้านำมาเพื่อจำนำ เพราะถ้าทองชำรุดหรือเสียหายทางร้านก็ต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ จึงอยากจะวอนหน่วยงานที่รับผิดชอบ เร่งจับคนร้ายให้ได้ทั้งขบวนการ เชื่อว่ากลุ่มมิจฉาชีพแก๊งนี้น่าจะเป็นช่างทองที่อยู่ในวงการ และเป็นมืออาชีพอย่างแน่นนอน เพราะสามารถปลอมทองได้แนบเนียนมาก

ด้าน พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้ ชุดสืบสวน สภ.หนองปรือ ได้จับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย คือ นายสัน อุลธานน สัญชาติ ลาว อายุ 43 ปี พร้อมของกลางสร้อยคอโลหะสีเหลือง(ทองคำปลอม )หนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้นำสร้อยปลอมมาจำนำที่ร้านดังกล่าวแล้ว 3 ครั้ง โดยมีพวกร่วมขบวนการ 3-4 คน ขับรถยนต์มาจาก กทม. จากนั้นได้จอดรถริมถนนให้ตนเองนำสร้อยมาจำนำ แต่ครั้งนี้ถูกทางร้านจับได้ในที่สุด เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันฉ้อโกงและพยายามร่วมกันฉ้อโกง

พ.ต.อ.ชิตเดชา กล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้ร่วมขบวนการนั้น จากการสอบสวนสามารถระบุตัวได้ 2 คน แต่ต้องรอตรวจสอบชื่อและสอบปากคำเพิ่มเติมของผู้เสียหายก่อน และให้ผู้เสียหายยืนยันรูปภาพ หลังจากนั้นจะขออนุมัติหมายจับ ส่วนรายละเอียดนั้นของยังไม่เปิดเผยเพราะอยู่ในสำนวนคดี