+covid-19บริหารท้องถิ่น

Lock Down พัทยาวันแรก คนมึนตึ้บ-รถติดหนึบ เจ้าหน้าที่รับเร่งปรับแผนแก้ปัญหา

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเขตพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จนปัจจุบันพบมีผู้ต้องสงสัยและติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องรวมแล้วมากกว่า 30 ราย ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 1 ของจังหวัดชลบุรี ซึ่งปัญหาดังกล่าวทำให้นายอำเภอบางละมุง นายกเมืองพัทยา และทุกภาคส่วนเห็นชอบตรงกันในการปิดเมืองพัทยา เพื่อไม่ให้บุคคลนอกพื้นที่เดินทางเข้า-ออกในเขตพื้นที่เมืองพัทยาได้อย่างอิสระ ทั้งนี้เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อให้อัตราการของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นศูนย์ กระทั่งเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้นำมาตรการปิดเมืองพัทยา หรือ การ Lock Down เมืองพัทยา เสนอในที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี โดยมีนายภัครธรณ์ เทียนชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี เพื่อลงนามเห็นชอบมาตรการ ปิดเมืองพัทยา ตั้งแต่เวลา 14.00 น.ของวันที่ 9 เมษายนนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะดำเนินการตลอด 24 ชม.รวมระยะเวลา 21 วัน โดยกำหนดให้มีจุดคัดกรอง 5 จุด พร้อมตั้งจุดตรวจคุมเข้มคนเข้า-ออก ทั้งยานพาหนะและบุคคล หากไม่ได้อยู่อาศัย หรือทำงาน มีเหตุจำเป็นในพัทยาจะไม่ให้เข้าออกจนกว่าสถานการณ์จะคลี่ คลาย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 9 เม.ย.วันแรกของการล็อค ดาวน์ ปิดพื้นที่การเข้า-ออกเมืองพัทยา จ.ชลบุรี อย่างเป็นทางการ นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง คณะผู้บริหาร เดินทางมาตรวจสอบความพร้อมของการจัดตั้งจุดสกัดที่ 2 บริเวณทางลงถนนสาย 7 ตอน 5 ถนนมอเตอร์เวย์ ขาเข้าพัทยา แยกพัทยาเหนือ อ.บางละมุง จ.ชล บุรี ซึ่งมีการจัดตั้งเต็นท์และวางกรวยแนวกั้นบริเวณหน้าสถานีตำรวจทางหลวงพัทยา เพื่อทั้งในส่วนของรถยนต์และรถจักรยานยนต์เข้าสู่จุดตรวจคัดกรอง โดยจะมีการตรวจวัดไข้อุณหภูมิ การตรวจบัตรประจำตัวประชาชน และใบรับรองการทำงานในพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งหากเป็นบุคคลที่ไม่มีภูมิลำเนาในเขตอำเภอบางละมุง และไม่มีใบรับรองที่ถูกต้องก็จะไม่อนุญาตให้เดินทางเข้าสู่เมืองพัทยาทุกกรณี เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่เมืองพัทยา ที่เพิ่มจำนวนผู้ป่วยขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้บรรยากาศโดยทั่วไปพบว่ายังคงเป็นไปด้วยความสับสน เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ ความเข้าใจในข้อบังคับและคุณสมบัติในการเข้าสู่พื้นที่ ขณะที่ปริมาณรถที่เดินทางมาจาก กทม.ที่มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองพัทยาเป็นจำนวนมาก แต่การคัดกรองเป็นไปด้วยความล่าช้า ทำให้ปริมาณรถสะสมคับคั่งและติดขัดกันอย่างหนักเป็นทางยาวนับกิโลเมตร จึงต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครออกไปอำนวยความสะดวกด้านการจราจรท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัด ขณะที่ประชาชนบางส่วนต่างแสดงความไม่พอใจถึงความยากลำบากในการดำเนินการดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนให้การเดินทางเข้า-ออกและการประกอบอาชีพ

ขณะที่พื้นที่จุดตรวจสอบที่ 3 บริเวณแยกพรประภานิมิต หรือ สยามคันทรีคลับ ซึ่งเป็นอีก 1 ใน 6 เส้น ประกอบด้วย แยกชัยพรวิถี แยกพระประมิมิตร (สยามคันทรีคลับ) แยกชัยพฤษ์ และแยกอัยการ สำนักงานเขต 2 ปากทางห้วยใหญ่ ขณะที่แยกกระทิงรายจะปิดกั้นเส้นทางโดยไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำ สำหรับเส้นทางที่เปิดให้ประชาชนในพื้นที่เดินทางเข้าสู่เมืองพัทยาโดยผ่านจุดคัดกรองนั้น พบว่าบรรยากาศค่อนข้างเป็นไปด้วยความวุ่นวายและสับสนพอสมควรเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามสร้างความเข้าใจและอธิบายขั้นตอนและวิธีการที่ถูก ต้อง เพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในช่วงอีก 21 วันที่เหลือจากนี้

ด้านนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่าขณะนี้เริ่มปฏิบัติการอย่างเข้มข้น 100 เปอร์เซ็นต์แล้วในการปิดเมืองพัทยา ซึ่งจากการลงพื้นที่เข้ามาตรวจสอบเรื่องของความพร้อมของการตั้งด่านจุดคัดกรองนั้นไม่ว่าจะเป็น จุดตรวจสกัด สถานที่วัดอุณหภูมิ เจลล้างมือ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ตอนนี้ถือว่ามีความพร้อมเต็มที่ถึงแม้บางด่านจะยังขลุกขลักอยู่บ้าง แต่เนื่องจากเป็นวันแรก คงต้องรับสภาพปัญหาและข้อมูลรวมทั้งเก็บเกี่ยวปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น ทั้งด้านการจัดกำลัง และปัญหาจากพี่น้องประชาชน ทั้งนี้เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขต่อไป

ประชาชนที่มีความจำเป็นจะเข้า-ออกพื้นที่เมืองพัทยา แล้วต้องผ่านด่านคัดกรองเพื่อเข้าตรวจสอบนั้น จะต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย การตรวจเอกสารหลักฐานในการแสดงตนว่าเป็นคนในพื้นที่หรือนอกพื้นที่อำเภอบางละมุง และเป็นผู้ได้ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าออกเมืองพัทยาหรือไม่ หากผู้ที่ไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จะต้องมีหนังสือรับรองการเข้า – ออก โดยให้กรอกแบบฟอร์ม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจจัดทำบัญชีควบคุมบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

ทั้งนี้ จุดคัดกรองต่างๆ ทั้ง 5 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 ซอยชัยพรวิถี (บริเวณหน้าร้านตำหลาย) จุดที่ 2 ถนนมอเตอร์เวย์ สาย 7 ตอน 5 (ช่วงหน้าตำรวจทางหลวง) จุดที่ 3 ซอยพรประภานิมิตร (หน้าร้านแม่ลาปลาเผา) จุดที่ 4 ซอยชัยพฤกษ์ (ก่อนถึงแยกทางรถไฟ หน้าร้านกาแฟ) และจุดที่ 5 ถนนสุขุมวิท ก่อนถึงสำนักงานอัยการ (ใต้สะพานลอยหน้าวัดนาจอมเทียน)

สำหรับเส้นทาง Lock Down นั้น จะปิดเส้นทางเข้าสู่เมืองพัทยาบริเวณสะพานลอยกระทิงราย เพื่อให้กลับรถวิ่งสู่ถนนเลียบทางรถไฟ รวมถึงแยกอัยการ เขต 2 เพื่อให้รถเลี้ยวไปใช้เส้นทางถนนเลียบทางรถไฟเช่นเดียวกัน ขณะที่ประชาชนที่จะเข้าสู่พื้นที่เมืองพัทยาจะต้องผ่านจุดคัดกรองที่กำหนดไว้ทั้ง 5 จุดดังกล่าว