วันเสาร์, พฤษภาคม 17, 2025
Latest:

พ่อแม่-ผู้ปกครอง หวั่นใจ ภัยหายนะ”ตู้คีบตุ๊กตา” ดูดเงินเด็กช่วงเปิดเทอม

”ตู้คีบตุ๊กตาไฟฟ้า” ยังคงสร้างปัญหาต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง และก่อให้เกิดความวิตกกังวลกับพ่อแม่ผู้ปกครองของนักเรียนและเยาวชน หวั่นใจว่าเงินค่าขนมและค่าใช้จ่ายอื่นๆในแต่ละวันที่ให้กับลูกหลานไปในช่วงเปิดเทอม เด็กๆและเยาวชนจะโดนสิ่งยั่วเย้าโน้มน้าวจิตใจ นำเงินไปเสียให้กับตู้คีบตุ๊กตา โดยไม่ได้อะไรกลับมา นอกจากเริ่มต้นเดินเข้าไปสู่วงจรการพนันที่แฝงมากับตู้ขายของอัตโนมัติในรูปแบบของการเสี่ยงโชค

มีรายงานว่า ขณะนี้ในพื้นที่ของอำเภอบางะมุง จังหวัดชลบุรี และในเขตพื้นที่ของเมืองพัทยา ปรากฏว่าตู้คีบตุ๊กตาไฟฟ้า ได้กลับมาเปิดให้บริการต้อนรับการเปิดเทอมของปีการศึกษาใหม่2568 กันอย่างคึกคัก โดยกลุ่มนายทุนเจ้าของตู้คีบตุ๊กตาไฟฟ้า ต่างก็ใช้สื่อออนไลน์ส่งข้อความเชิญชวนให้เด็กและเยาวชน รวมทั้งบุคคลทั่วไป ไปใช้บริการคีบตุ๊กตาจากตู้ไฟฟ้าอัตโนมัต ที่มีการนำป้ายไปติดว่า “ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ” พร้อมแจ้งราคาตุ๊กตาที่โชว์ในตู้ ด้วยราคาสูงลิบลิ่ว แต่ในความเป็นจริง เด็กและเยาวชนที่ต้องการอยากได้ ต้องนำเงินไปแลกเหรียญ “โทเค่น”มาหยอด เพื่อให้เครื่องทำงาน จึงโยกปุ่มขาหนีบคีบตุ๊กตามาหย่อนลงในช่องเพื่อให้ตุ๊กตาออกมาด้านนอกของตู้ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะไม่ได้ ขาหนีบจะถ่างออกปล่อยตัวตุ๊กตาหลุดก่อนทุกครั้ง ตามโปรแกรมระบบกลไกที่เจ้าของตั้งไว้ ทำให้ต้องเสียเงินไปในแต่ละครั้งที่คีบไม่สำเร็จ

รายงานข่าว ยังระบุอีกว่า สำหรับราคาตุ๊กตาที่ติดไว้หน้าตู้ จะมีตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป จนถึงราคาหลักพันบาท โดยทางเจ้าของตู้จะเขียนข้อความไว้ว่า หากหยอดเงินครบตามจำนวนแล้ว ให้โทรติดต่อไปที่หมายเลขโทรศัพท์ที่ระบุไว้ จะมีคนมาไขกุญแจนำตุ๊กตาออกมาให้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตกอยู่ในสถานะ “ตู้พนันเสี่ยงโชค” ซึ่งเป็นการผิดกฏหมาย แต่ในความเป็นจริง เด็กและเยาวชนที่หลงเข้าไปเล่น พอเสียเงินไปร้อยสองร้อยก็หยุดเล่น เท่ากับเสียเงินให้กับเจ้าของตู้ไปฟรีๆ โดยไม่ได้อะไรกลับมาเลย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ มีการสอบถามผู้ปกครองท่านหนึ่ง เผยว่า มีความกังวลเป็นอย่างยิ่ง เพราะตู้คีบตุ๊กตาไฟฟ้า ลักษณะที่หลบเลี่ยงความผิดทางกฏหมายด้วยการนำป้ายมาติดว่าเป็น “ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ” กำลังระบาดอย่างหนักทั่วพื้นที่อำเภอบางละมุง และเมืองพัทยา โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ทางการเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียด เพิกเฉย ปล่อยปละละเลย ส่งผลกระทบต่อสังคมอย่างมาก เริ่มจากเด็กและเยาวชนที่ได้รับเงินค่าขนม ค่าใช้จ่าย จากผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอม เมื่อโดนสิ่งยั่วยวน หรือเพื่อนชักชวนไป ให้นำเงินไปหยอดลงตู้กันจนหมดเกลี้ยงกระเป๋า ส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนในระดับครัวเรือน และขยายวงกว้างไปสู่สังคม เท่ากับว่าเป็นการมอมเมาเด็กและเยาวชนด้วยตู้ตุ๊กตาอาบยาพิษ เริ่มเสพติดการพนันเสี่ยงโชค ตั้งแต่อายุยังน้อย

“…เจ้าหน้าที่ทางการ เชื่อได้อย่างไรว่า มันคือตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติจริง ที่ไม่ได้แอบแฝงให้เด็กเสี่ยงโชค เข้าข่ายเล่นพนัน…” ผู้ปกครองคนเดิม ฝากทิ้งท้ายไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยงข้อง