ตร.สระแก้ว สนธิกำลังลุยอรัญประเทศ ทลายแหล่งกักตุน/ขายหน้ากากอนามัยเกินราคา

จากกรณีเกิดภาวะขาดแคลนหน้ากากอนามัย ซ้ำยังกลายเป็นสินค้าหายากและมีราคาสูง ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าบางรายได้ฉวยโอกาสขึ้นราคาและเปิดขายผ่านออนไลน์จนเกิดกระแสการร้องเรียน โดยเฉพาะพื้นที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบว่ามีการร้องเรียนจากผู้บริโภคเป็นจำนวนมากนั้น

ต่อมาเมื่อวันที่ 13 มี.ค.พันตำรวจเอก เผ่าภากร รามนุช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.คลองลึก,นางสาวนงเยาว์ ศรีฉันทะมิตร พาณิชย์จังหวัดสระแก้ว นำเจ้าหน้าที่ตำรวจคลองลึก ศุลกากรอรัญประเทศ ตม.สระแก้ว ทหารพราน ฝ่ายปกครอง จนท.พาณิชย์จังหวัด กรมน.สระแก้ว ฉก.อรัญประเทศ สนธิกำลังลงพื้นที่โรงเกลือ จำนวน 2 จุด สำหรับจุดแรกพบในห้องโล่งสินค้าหน้ากากอนามัย จำนวน 4 ลัง มีจำนวน 10,000 ชิ้น จุดที่ 2 เป็นร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นพบอีก 12 ลัง จำนวน 30,000 ชิ้น พร้อมยึดของกลางหน้ากากอนามัย รวมจำนวน 16 ลัง รวมจำนวน 40,000 ชิ้น ในขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นเจ้าของสินค้าได้ไหวตัวหลบหนีไปก่อนหน้าที่แล้ว เจ้าหน้าที่ จึงได้ตรวจยึดหน้ากากอนามัยทั้งหมดซึ่งเป็นสินค้าควบคุมหรือทำให้เกิดความปั่นป่วน ซึ่งราคาของสินค้าอันเป็นความผิดตามมาตรา 29 และมีโทษตามมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 การจับกุมดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มผู้ค้าที่ขายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยมีพฤติการณ์ขายราคาแพงกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือหลอกลวง ฉ้อโกงประชาชน

อย่างไรก็ตามสำหรับการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตรวจพบจากเพจ “หน้ากากอนามัยราคาถูก” ที่มีผู้เข้ามาโพสต์ข้อความซื้อขายหน้ากากอนามัยจำนวนมาก และหลายรายมีการเสนอขายหน้ากากอนามัยในราคาที่สูง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วไม่ใช้ในประเทศไทยเป็นภาพที่เกิดขึ้นในประเทศเวียดนามที่มีการโฆษณาเสนอขายสินค้าหน้ากากอนามัยดังกล่าว

โดยสินค้าหน้ากากอนามัย จำนวน 40,000 ชิ้น ซื้อขายหน้ากากอนามัย กล่องละ 650 บาท กล่องบรรจุ50 ชิ้น จนท.นำสู่การตรวจค้นเพื่อยึดไว้ตรวจสอบที่มาของหน้ากากอนามัยจากประเทศเพื่อนบ้านที่นำเข้ามาจำหน่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้วเพื่อสอบสวนขยายหาเจ้าของหน้ากากอนามัยมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ถัดมาในช่วงบ่ายวันที่ 14 มี.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม (ปคบ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ,ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร จ.สระแก้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจับกุมหน้ากากอนามัย ภายในห้องเช่าอากงอาม่า พื้นที่ตลาดอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ภายหลังมีการประกาศขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ต ในราคาสูงกว่าราคาควบคุม จึงร่วมกันตรวจยึดของกลาง หน้ากากอนามัย จำนวน 3,500 ชิ้น มาตรวจสอบที่สถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาผู้ครอบครอง กรณีไม่สามารถแสดงใบอนุญาตนำเข้าได้ รวมทั้งอยู่ระหว่างตรวจสอบอีกว่า ของกลางที่ยึดได้เป็นหน้ากากกันฝุ่นหรือหน้ากากอนามัย เนื่องจากการขายเกินราคามีกฎหมายลงโทษต่างกัน โดยเจ้าของร้านบอกว่า ซื้อมาในราคา 900 กว่าเหรียญต่อกล่องใหญ่หรือตกกล่องเล็ก 50ชิ้น กล่องละ 600 กว่าบาท

ภายหลังมีการจับกุม พ.ต.อ. เผ่าภากร รามนุช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว,พ.ต.อ.อาวัฒน์ พิบูลย์สวัสดิ์ ผกก.สภ.อรัญประเทศ และนางสาวนงเยาว์ ศรีฉันทะมิตร หัวหน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสระแก้ว เดินทางมาร่วมตรวจสอบด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่าง ตรวจสอบเพิ่มเติมว่า จะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาใดได้บ้าง เนื่องจากหากตรวจสอบแล้วเป็นหน้ากากกันฝุ่น ซึ่งสามารถขายได้ราคาสูงกว่า 2.5 บาท แต่หน้ากากอนามัยมีกฎหมายควบคุมที่ราคาไม่เกิน 2.5 บาท นอกจากนี้หากพบว่า มีการนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีความผิดตามกฎหมายศุลกากรด้วย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตรวจยึดหน้ากากอนามัยควบคุมนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อตรวจสอบขยายผลหาแหล่งที่มาของสินค้าควบคุมหน้ากากอนามัยมาดำเนินตามกฎหมายต่อไป.