การประปาพัทยา ย้ำแล้งนี้มีน้ำเพียงพอ แต่ขอความร่วมมือใช้อย่างประหยัด
นายสุทัศน์ นุชปาน ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาพัทยา เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่อำเภอบางละมุงและเมืองพัทยา ประจำปี 2563 ว่า ขณะนี้แหล่งน้ำได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น น้ำระเหยเร็วกว่าปกติ ทำให้ปริมาณน้ำน้อยกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากเดิมที่มีอยู่ 21 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลืออยู่เพียง 7 ล้านลูกบาศก์เมตร จาก 5 อ่างเก็บน้ำที่ใช้อยู่เป็นประจำ
นายสุทัศน์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาการประปาพัทยา ได้ผันน้ำมาจากจังหวัดระยอง อ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี และจากอีสวอเตอร์อีกเป็นบางส่วน เพื่อให้เพียงพอต่อปริมาณของประชากรในพื้นที่ แต่เนื่องจากภัยแล้งในปีนี้ ทำให้น้ำที่จังหวัดระยอง และอ่างเก็บน้ำบางพระเริ่มน้อยลงเริ่มไม่พอ ซึ่งต้องแบ่งปันน้ำในพื้นที่ 3 จังหวัดบางส่วน การประปาพัทยาต้องส่งไปช่วยที่ อำเภอบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เนื่องจากประสบภาวะน้ำเค็ม เพราะฉะนั้นการจัดสรรน้ำในตอนนี้ กรมชลประทานได้บริหารน้ำโดยการไปทำ MOU นำน้ำจากจันทบุรี ที่คลองวังโตนด จำนวน 10 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยจะผันน้ำเข้ามาที่อ่างประแส เริ่มสูบน้ำวันที่ 1-24 มีนาคม 2563 จากนั้นจะผันมาที่อ่างหนองปลาไหล ซึ่งจะมีโรงสูบ เพื่อสูบมาที่เมืองพัทยา รวมระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร
นายสุทัศน์ กล่าวอีกว่า ในขณะนี้ได้ของบประมาณอีกจำนวน 80 ล้านบาท เพื่อวางท่อประปาและระบบแรงดันน้ำจากอ่างเก็บน้ำมาบฟักทอง และอ่างเก็บน้ำห้วยตู้ ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำในโครงการพระราชดำริ เพื่อเชื่อมทั้ง 2 อ่างฯ พร้อมตั้งโรงกรองสูบน้ำมาใช้ยังเมืองพัทยานอกจากนั้น การประปาพัทยายังมีแผนสำรองกรณีเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำ ด้วยการขอซื้อน้ำจากบ่อดินของภาคเอกชนซึ่งเป็นน้ำดี สามารถนำมาบริโภคได้ โดยในขณะนี้มีสำรองอยู่ประมาณ 2 ล้านลูกบาศก์เมตรแล้ว
ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาพัทยา กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ปริมาณน้ำประปามีใช้อย่างพอเพียงตลอดช่วงฤดูแล้ง ทางการประปาจึงมีความจำเป็นต้องแบ่งน้ำ ด้วยการลดแรงดันน้ำในช่วงเวลากลางคืน ทำให้น้ำไหลน้อยหรือไหลเอื่อย ตั้งแต่เวลา 20.00 น.เป็นต้นไป ส่วนช่วงเวลากลางวันจะเปิดตามปกติ โดยจะทำสลับกันไปในแต่ละพื้นที่ แต่ยังคงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด โดยใช้น้ำเท่าที่จำเป็น ไม่ปล่อยให้น้ำไหลทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ โดยยืนยันว่าประชาชนจะมีน้ำประปาใช้เพียงพอตลอดช่วงหน้าแล้ง