ผลงานเป็นที่ประจักษ์..พล.ร.อ.อภิวัฒน์ ศรีวรรธนะ นั่งนายกสมาคมกีฬาปัญจกีฬาฯ ต่ออีก 1 สมัย

ที่ห้องประชุมแสนรัก นันทอุทยานสโมสร กรุงเทพฯ (24 ก.ย.2567) สมาคมกีฬาปัญจกีฬาแห่งประเทศไทย จัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญ ประจำปี 2567 โดยมีวาระสำคัญ คือการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ เนื่องจากคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดปัจจุบัน โดยการนำของ พลเรือเอก อภิวัฒน์ ศรีวรรธนะ ได้ครบวาระการบริหารงานเมื่อ วันที่ 8 กันยายน 2567 ดังนั้น ตามข้อบังคับสมาคมฯ จึงได้จัดให้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ในวาระใหม่ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมฯ รวม 41 คน ถือว่าครบองค์ประชุมฯ โดยมี นายรัฐพล ไผ่งาม ผู้อำนวยการกองทะเบียนสมาคมกีฬา นางสาวกมลวรรณ สุทธิบุตร หัวหน้างานทะเบียนสมาคมกีฬาประจำกรุงเทพฯ และนางสาวศศิธร สุคนธ์ นิติกร เป็นผู้แทนการกีฬาแห่งประเทศไทย เข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุมฯ

ทั้งนี้ ในวาระการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ที่ประชุมมีมติเสนอให้ พลเรือเอก อภิวัฒน์ ศรีวรรธนะ ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ ในวาระต่อไป เนื่องจากมีคุณสมบัติที่เพียบพร้อม และมีศักยภาพที่จะสามารถผลักดันกีฬาปัญจกีฬาไปสู่ระดับสากล ตามวิสัยทัศน์ของสมาคมฯ คือ “พัฒนากีฬาปัญจกีฬาให้สำเร็จในระดับโอลิมปิกอย่างมั่นคง บริหารจัดการอย่างมีมาตรฐานเป็นมืออาชีพ หนุนสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและมูลค่าทางสังคม พึ่งพาตนเอง”

ดังปรากฏในผลงานการบริหารงานของสมาคมฯ ที่ผ่านมา ที่ได้บรรลุผลสำเร็จสูงสุดในการส่งนักกีฬา จ่าโท ภูริช โยเฮือง หรือ “น้องคิว” ยอดมนุษย์ประดู่เหล็ก เข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ซึ่ง “น้องคิว” เป็นนักกีฬาเพียงหนึ่งเดียวของอาเซียน ที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันระดับโลกในครั้งนี้ สามารถสร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้แก่ประเทศไทยเป็นอย่างมาก รวมทั้งทำให้คนไทยรู้จักกีฬาปัญจกีฬา ซึ่งเป็นกีฬาประเภทใหม่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้ง พลเรือเอก อภิวัฒน์ ได้บริหารงานจนบรรลุทั้ง 4 ด้าน คือ การบริหารจัดการ การพัฒนานักกีฬา การพัฒนาบุคลากรกีฬา และการจัดการแข่งขัน ทำให้นักกีฬาปัญจกีฬามีความพร้อมในการเข้าร่วมการแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาค และระดับโลก โดยผลงานการบริหารที่ผ่านมา เป็นที่ประจักษ์ชัดอย่างยิ่ง

ที่ประชุมฯ จึงมีมติรับรองจากเสียงข้างมาก จำนวน 39 เสียง ให้ พลเรือเอก อภิวัฒน์ ศรีวรรธนะ ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาปัญจกีฬาแห่งประเทศไทย ต่อไปอีก 1 วาระ (2567-2570) โดยนายกสมาคมฯ ได้กล่าวแสดงความยินดีที่จะดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาปัญจกีฬาแห่งประเทศไทย ในวาระต่อไป และแสดงความพร้อมที่จะพัฒนากีฬาปัญจกีฬาให้ไปสู่ระดับสากลในอนาคต ตามวิสัยทัศน์ของสมาคมฯ