อึ้ง!ทุ่นกั้นเขตว่ายน้ำเมืองพัทยาโผล่ร้านอาหารริมหาดดัง ตกแต่งร้าน ทำที่นั่ง รองฯ มาโนช สั่งตรวจสอบ ชี้ทรัพย์สินทางการห้ามเอาไปใช้ส่วนตัว
จากกรณีมีภาพปรากฏไปทั่วโลกออนไลน์ ถึงการพบผู้ประกอบการ ซึ่งเปิดพื้นที่ให้เช่าเป็นตลาดนัดและร้านอาหาร ริมชายหาดกระทิงลาย นำทุ่นว่ายน้ำของเมืองพัทยา นับ 100 ลูก มาใช้ตกแต่งร้านและใช้แทนโต๊ะเก้าอี้นั่งชิลริมชายหาด ต่อมาจากการเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงบริเวณชายหาดกระทิงลาย หลังร้าน ป.ประมง ฝั่งขาเข้า จ.ชลบุรี ม.1. ต.นาเกลือ อ.บางละมุง พบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 1-2 ไร่ ตั้งอยู่ริมต้นชาหาดกระทิงลาย มีการติดตั้งป้ายให้เช่าพื้นที่ตลอดแนวถนนทางเข้าจากริมสุขุมวิท ภายในมีการจัดทำเป็นตลาดนัดจำหน่ายสินค้า นอกจากนี้ภายในยังจัดทำที่นั่งรับประทานอาหารขนาดใหญ่ประมาณ 20-30 โต๊ะ รวมถึงห้อง น้ำ-ห้องสุขา ซึ่งสิ่งที่สำคัญคือมีการตรวจพบทุ่นเขตว่ายน้ำ ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นของเมืองพัทยาในสภาพที่ยังสามารถใช้งานได้ประมาณ 50-60 % จำนวนนับร้อยใบ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่าล้านบาทถูกขนนำมาวางเรียงไว้กั้นเป็นแนวเขตของร้าน รวมทั้งนำมาตั้งจัดวางเป็นเก้าอี้สำหรับแขกที่เข้ามาใช้บริการ และแนวเขตห้องน้ำ
จากการสอบถามผู้ประกอบการที่มาเช่าพื้นที่ด้านในทราบว่าพื้นที่นี้เปิดให้บริการมาเป็นระยะเวลานานพอสมควรแล้ว มีการนำทุ่นเขตว่ายน้ำหรือทุ่นสำหรับช่องทางเดินเรือของเมืองพัทยาขนาดประมาณ 90×90 ซม.ซึ่งไม่ทราบว่าไปซื้อหรือเอามาจากที่ใด หรือนำของทางการมาใช้โดยมีการไปขออนุญาตหรือไม่ เพื่อนำมาใช้ในการจัดวาง ทำแนวเขตของร้านและสร้างชุดเก้าอี้สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวอีกเป็นจำนวนมาก
สำหรับพื้นที่นี้ปกติจะเปิดให้บริการทุกวัน โดยนักท่องเที่ยวจะแวะเวียนเข้ามาซื้ออาหารและเครื่องดื่มจากร้านภายในตลาด จากนั้นก็จะขนอาหารมานั่งในพื้นที่ที่ทางตลาดจัดเตีรยมไว้ให้เพื่อนั่งรับประทานและพักผ่อน โดยพบว่าแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก และจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นหลายเท่าในทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือวันนักขัตฤกษ์ ขณะที่ในเวลาใกล้กันนี้ทราบว่าทางตลาดจะมีการจัดจ้างดนตรีสดมาเปิดทำการแสดงเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาใช้บริการอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าสำหรับทุ่นเขตว่ายน้ำหรือทุ่นบอกแนวเขตช่องทางการเดินเรือ เมืองพัทยาต้องตั้งงบประมาณหรือโครงการในการขอรับงบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อนำมาใช้ในการจัดระเบียบทางทะเล โดยได้ดำเนินการมาต่อเนื่องหลายครั้งใช้งบประมาณไปจำนวนนับหลายสิบล้านบาท ขณะที่การใช้งานพบว่าไม่มีการเฝ้าระวังติดตามหรือการนำเก็บกลับมาซ่อมบำรุงอย่างไร
ส่วนพื้นที่ของตลาดนัดที่ไปพบว่าอาจมีการนำทุ่นของหลวงมาใช้นั้น มีการตั้งข้อสังเกตุว่าเมืองพัทยาเองก็มีการจัดตั้งศูนย์กู้ภัยทางทะเลและชายฝั่งกระทิงลาย ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารคอนกรีตภาวรพร้อมห้องปฏิบัติการและเครื่องมือ แต่กลับพบว่าขณะตรวจสอบซึ่งเป็นวันทำการกลับไม่มีเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯประจำการแต่อย่างใด ด้วยมีการปิดล็อคจากด้านในอย่างแน่นหนา
ขณะที่พื้นที่ภายในกว่า 50 % นั้น พบว่ามีการเก็บรักษาทุ่นเขตว่ายน้ำหรือทุ่นบอกแนวเขตการเดินเรือที่ผ่านการใช้งานมาแล้วลักษณะเดียวกับที่ทางตลาดนัดใช้ถูกขนมาวางไว้อย่างเป็นระเบียบจำนวนนับร้อยลูก แต่พื้นที่ของตลาดดังกล่าวที่พบทุ่นจำนวนมากนั้นก็มีระยะทางห่างจากศูนย์กู้ภัยทางทะเลของเมืองพัทยาในระยะไม่เกิน 200 เมตร
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ มีรายงานว่า นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา ได้รับทราบเรื่องร้องเรียนว่ามีร้านค้านำทุ่นมาทำเป็นที่นั่ง ตกแต่งร้านค้าแล้ว และเมืองพัทยาได้ให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ซึ่งให้เจ้าของที่นำทุ่นคืนกลับมาให้ทางเมืองพัทยา โดยทุ่นดังกล่าวเป็นทุ่นที่ได้รับความเสียหาย แต่มีบางส่วนที่ใช้ได้ ทางร้านนำทุ่นมาใช้ภายในร้านถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะทางร้านเป็นพื้นที่ของเอกชน ส่วนทรัพย์สินของเมืองพัทยาหรือทรัพย์สินทางราชการไม่สามารถนำไปใช้ส่วนตัวได้