เมืองพัทยาเปิดคุณสมบัติผู้รับเหมาเตรียมจัดจ้างรายใหม่ สานต่องานก่อสร้างสนามกีฬาฯ ภาคตะวันออก หวังจบงานได้ตามแผน
จากกรณีที่นายสุพจน์ ศรีงามเมือง ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาดูความคืบหน้าโครงการมหกาพย์สนามกีฬาภาคตะวันออก ขนาด 371 ไร่ ความจุขนาด 20,000 ที่นั่ง งบประมาณกว่า 774 ล้านบาท บนพื้นที่ ม.4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับร้องเรียนว่าโครงการดังกล่าวใช้เวลาสร้างมานานถึง 15 ปี หรือตั้งแต่ปี 2551 แต่ยังไม่แล้วเสร็จเหมือนถูกปล่อยทิ้งร้าง ที่สำคัญอุปกรณ์ เครื่องใช้ภายในอาคาร ชำรุดเสียหายเนื่องจากขาดการดูแลเฝ้าระวัง ทั้งที่โครงการนี้มีเป้าหมายที่จะใช้เป็นศูนย์รวมการแข่งขันกีฬาทั้งในระดับท้องถิ่น และระดับประเทศที่มีมาตรฐานสากล ตามแผนก่อสร้างตั้งแต่ปี 2551-2560
สำหรับปัญหาของโครงการดังกล่าว นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา ได้ชี้ แจงว่าที่ล่าช้ามีหลายปัจจัยโดยเฉพาะเรื่องของพื้นสนามที่มีลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่ที่ยากต่อการขุดเจาะ กระทั่งลงนามว่าจ้างทหารช่างมาจัดทำในระยะที่ 2 จำนวนงบประมาณกว่า 536 ล้านบาท ซึ่งแล้วเสร็จตามกำหนด ขณะที่การดำเนินการในระยะที่ 3 ที่ใช้งบประมาณ 398 ล้านบาทนั้น พบว่าในระหว่างดำเนินการ เกิดปัญหาโรคโควิด-19 ระบาด จึงทำให้แรงงานขาดหายไป ก่อนที่ผู้รับเหมาจะทิ้งงานหลังเบิกงบประมาณไปแล้วจำนวน 12 งวด เป็นเงิน 143.2 ล้านบาท เมืองพัทยาจึงยึดเงินประกันจำนวน 50 ล้านบาท แต่ทางผู้รับเหมามียอดติดค้างอยู่ 80 กว่าล้านบาท จึงมอบหมายให้สำนักงานกฎหมายแจ้งความดำเนินคดีแล้ว
ขณะที่ความคืบหน้านั้น นายกเมืองพัทยา ระบุมีแผนจะให้แล้วเสร็จตามเป้าหมาย จึงมีการขออนุมัติงบผูกพัน 3 ปีจากเมืองพัทยาเพื่อว่า จ้างผู้รับเหมามาก่อสร้างต่อให้แล้วเสร็จ โดยงวดแรกได้เสนอขอจัดสรรงบประมาณจำนวน 328 ล้านบาท ซึ่งสภาฯได้อนุมัติเห็นชอบไปแล้ว และปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของระเบียบพัสดุ ก่อนที่จะเตรียมเสนอประกวดรา คา และจัดซื้อจัดจ้างผู้รับเหมาในเร็วๆ นี้ โดยจะมี ป.ป.ช.มาร่วมตรวจสอบและทำงานคู่ขนานกันไปเพื่อให้โครงการแล้วเสร็จ
ต่อมา นางน้ำผึ้ง ชาลีชาติ ผู้อำนวยการกองพัสดุและทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักพัสดุและทรัพย์สิน ซึ่งดูแลในเรื่องของระเบียบพัสดุและการจัดซื้อ-จัดจ้าง ชี้แจงว่าโครงการนี้ผ่านงบประมาณผูกพันในระยะที่ 1 ไปแล้วจำนวน 328 ล้านบาท ปัจจุบันทางสำนักฯ ได้รับมอบโครงการจากสำนักการช่างแล้ว ดังนั้นจากนี้จะได้ตรวจสอบราคากลางเพื่อให้เกิดความถูกต้องเหมาะสม เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จากนั้นจะปิดประกาศเพื่อหาผู้รับจ้างที่จะเข้ามาเสนองานในรูปแบบ E-Bidding ซึ่งแต่เดิมระบบนี้ คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นระบบที่มีช่องว่างที่จะทำให้ได้ผู้รับจ้างที่มีปัญหามาดำเนินการ แค่การจัดตั้งบริษัทฯ เข้าหลักเกณฑ์แต่ประมูลงานด้วยราคาต่ำจึงได้รับโครงการไปทำ แต่สุดท้ายก็ขาดคุณภาพและทิ้งงานไป
นางน้ำผึ้ง กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีการออกประกาศใหม่กำหนดคุณสมบัติของผู้รับจ้าง เพื่อบังคับใช้สำหรับผู้เข้ามาประมูลรับจ้างโครงการ โดยจะต้องมีผลงานการทำงานร่วมในโครงการหน่วยงานของรัฐ และมีผลกำไรหรือประสบความสำเร็จ เพื่อการันตีความสามารถตามหลักเกณฑ์ใหม่ โดยขั้นตอนนี้จะมี ป.ป.ช.เข้ามาร่วมดูแลและตรวจสอบ จากนั้นก็จะประกาศประกวดราคาเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและวิจารณ์ถึงความเหมาะสม ก่อนจะพิจารณาสรรหาผู้รับจ้างเพื่อมาดำเนินการตามแผนงานต่อไป.