รวบวินจยย.-เพื่อนสาว ทำร้ายนักท่องเที่ยวกิมจิ ใจดีไม่ติดใจเอาเรื่อง ตร.เลยปล่อยตัวกลับ
จากกรณี Mr. SUNG HO IW อายุ 57 ปี สัญชาติเกาหลี ที่ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ เข้าขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา เพื่อพาเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา04.40 น.วันที่19 ก.พ.2563 โดยผู้บาดเจ็บ ให้การว่าก่อนเกิดเหตุได้พาหญิงไทยไปนั่งดื่มกินในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง จากนั้นก็พากลับที่พักในนาเกลือซอย 17 อ.บางละมุง ระหว่างทางขณะมาถึงปากซอยผู้หญิงขอลงจากรถ และโทรศัพท์ตามผู้ชายไทยมาอีก 2 คน ซึ่งตรงเข้ามาถามแต่เรื่องเงิน แต่ไม่ได้ให้ไปจึงถูกชายผู้นั้นชกที่ลำคอและใบหน้าหลายครั้ง จนได้รับบาดเจ็บ โชคดที่มีพลเมืองดีมาเห็นเหตุการณ์แล้วเข้าห้ามปราม จนผู้ก่อเหตุวิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไปพร้อมกับหญิงไทย
ต่อมาเวลา 18.30น.วันเดียวกัน ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางละมุง ร่วมตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้เชิญตัว นายนราทิพย์ หละวัน อายุ 25 ปี อาชีพขับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างย่านพัทยาใต้ พร้อมกับเพื่อนสาว (ขอสงวนนาม) และนาย SUNG HO lW (ผู้เสียหาย) มาสอบสวนเกี่ยวกับคดีนี้ โดยผ่านล่าม
จากการสอบสวน ทั้ง 2 ฝ่าย ทราบว่าเป็นเรื่องของการเข้าใจผิด เกี่ยวกับการสื่อสารด้านภาษา เพราะผู้เสียหายพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ และทางชายไทย-หญิงไทย ก็พูดภาษาเกาหลีไม่ได้ จึงพูดจาสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง
ทั้งนี้ นาย SUNG HO lW (ผู้เสียหาย) ไม่ติดใจเอาความ ทำให้ตำรวจ สภ.บางละมุง ได้แต่ทำประวัตินายนราทิพย์และแฟนสาวไว้ ก่อนที่จะปล่อยคนทั้งสองกลับไป
อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า คดีนี้ แม้ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ถูกทำร้ายร่างกาย จะไม่ประสงค์เอาผิดกับผู้ที่ทำร้าย แต่ การทำร้ายร่างกาย ถือเป็นคดีที่ไม่สามารถยอมความได้ตามประมวลกฎหมายอาญา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นคดีความผิดที่กระทบต่อสังคมส่วนรวม ถือว่ารัฐเป็นผู้เสียหาย ซึ่งคดีนี้ นอกจากอาจจะทำให้เกิดภาพลบด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยาแล้ว รวมถึงหวั่นว่าอาจกระทบความเชื่อมั่นของผู้ที่จะเข้ามาเที่ยวในภายภาคหน้าด้วย