ตร.บางละมุง ตามรวบอดีตลูกน้องแสบ ขี่จยย.พ่วงข้างลักตู้เย็นร้านที่เคยทำงาน

ชลบุรี (19 ม.ค.2567) พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง ผกก.สส.ฯ และ พ.ต.ต.วุฒิพงษ์ กาสา สว.สส.ฯ ได้จับกุมตัว นายวุฒิชัย หรือหนุ่ย ทรัพย์สิน อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี หลังจากขับขี่รถจักรยานยนต์ (พ่วงข้าง) ก่อเหตุขโมยตู้เย็น ที่บริเวณหน้าห้องเช่า ไม่มีชื่อ ในซอย 75 สุขุมวิทพัทยา ม.13 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง โดยภาพกล้องวงจรปิด จับภาพตอนก่อเหตุได้อย่างชัดเจน เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.บางละมุง ว่าตู้เย็น ยี่ห้อ โตชิบา สีเทา ราคาประมาณ 3,000 บาท ที่วางอยู่บริเวณด้านหน้าห้องเช่า ซึ่งเปิดประกอบกิจการเป็นร้านรับซ่อมตู้เย็นเครื่องซักผ้า แอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ถูกคนร้ายลักขโมยไป เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายมาด้วยกัน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มาจอดบริเวณหน้าห้องเช่า ก่อนจะช่วยกันยกตู้เย็นขึ้นพ่วงข้าง แล้วพากันหลบหนีไป

ด้านแฟนสาวผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังก่อเหตุได้เห็นคนร้ายทั้งสองคน กำลังขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง อยู่ในซอยบ้านมุ่งหน้าขึ้นสุขุมวิทพัทยาใต้ และจำได้ว่าคนขับ คือนายวุฒิชัย ลูกน้องเก่า ที่เคยทำงานที่ร้านรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า อีกทั้งยังเช่าห้องอยู่ติดกันอีกด้วย เมื่อนายวุฒิชัย เห็นก็แสดงท่าทีตกใจรีบเร่งเครื่องรถจักรยานยนต์พ่วงข้างหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ตัวเองไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าคนที่บ้านอาจจะวานให้ยกตู้เย็นไปส่งลูกค้า

ต่อมาชุดสืบสวน เห็นนายวุฒิชัย ยืนอยู่บริเวณหน้าห้องพักตัวเอง ซึ่งติดกับห้องเช่าเกิดเหตุไม่ถึง 5 เมตร ตำรวจจึงแสดงตัวเพื่อตรวจค้น สอบถามข้อเท็จจริง พร้อมเปิดภาพหลักฐานกล้องวงจรปิดให้ดู จึงทำให้นายวุฒิชัย จำนนต่อหลักฐาน ยอมรับว่า เป็นคนลักขโมยตู้เย็นไปจริง นำไปขายต่อในราคา 2,000 บาท และเอาเงินที่ได้ไปใช้หมดแล้ว ส่วนเพื่อนอีกคนที่มาด้วยกันไม่มีส่วนรู้เห็น เพราะเป็นวัยรุ่นที่มาเที่ยวเล่นอยู่ในซอย และไหว้วานให้ช่วยยกตู้เย็นใส่พ่วงข้างเท่านั้น

เบื้องต้น ตำรวจได้ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ (พ่วงข้าง) ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ขษษ 285 ชลบุรี คันที่ใช้ก่อเหตุ และเสื้อผ้าที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ เพื่อเป็นหลักฐานประกอบในการดำเนินคดี จึงแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน , ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน , โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.