รวบสาวระยอง ลักทรัพย์นักท่องเที่ยวตุรกี เจ้าตัวอ้างเหยื่อเมายื่นเงินให้ไปซื้อเหล้า
ระยอง (24 พ.ย.2566) พล.ต.ต.มล.สันธิกร วรวรรณ ผบก.ทท.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชาย ธีรภัทรไพศาล ผกก.2 บก.ทท.1 พ.ต.ท.ปริญ ศรีภัทรกุลชัย สว.กก.2 บก.ทท.1 พ.ต.ท.พิชญะ เขียวเปลื้อง สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยา และ ร.ต.อ.อภิชาติ จารุรักษ์ รอง สว.กก.2 บก.ทท.1 ได้บูรณาการกำลังร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา เข้าจับกุมตัว นางนภาพร รอดคุ้ม อายุ 38 ปี ชาวจังหวัดระยอง ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนเส้นทางเข้าสวนเขาตายาย อ.เมืองระยอง
สืบเนื่องจาก กลางดึกของวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา นายรูฮัน นักท่องเที่ยวชาวตุรกี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ว่าถูกสาวไทยลักขโมยทรัพย์สินไปมูลค่าเกือบ 1 แสนบาท เป็นเงินสดสกุลไทย-ต่างประเทศ และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง แล้วหลบหนีไป ระหว่างที่กำลังอาบน้ำ อยู่ในห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านพัทยาสายสอง หลังรู้จักกับสาวไทยคนดังกล่าวได้ประมาณ 3 วัน ผ่านแอพพลิเคชั่นหาคู่ ก่อนจะชักชวนกันไปเที่ยวตามสานบันเทิง หลังผับปิดได้ชักชวนกันร่วมหลับนอน แต่สาวออกอุบายให้ไปอาบน้ำ เมื่อออกมาปรากฏว่าถูกขโมยทรัพย์สินไปเกลี้ยง
ภายหลังเกิดเหตุ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ตำรวจเร่งไล่ล่าจับกุมตัวผู้ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากคดีดังกล่าว เป็นการทำลายภาพลักษณ์เมืองพัทยา แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศเสียหาย ตำรวจท่องเที่ยว จึงบูรณาการกำลังร่วมกับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดแกะรอย จนได้เบาะแสว่า นางนภาพร เป็นผู้ก่อเหตุ ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดพัทยา อนุมัติหมายจับ โดยหลังเกิดเหตุ สืบทราบว่า นางนภาพร หลบหนีกลับมาซ่อนตัวที่บ้านเกิดใน จ.ระยอง ตำรวจจึงเดินทางไปจับกุมตัวได้ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์
จากการสอบสวน นางนภาพร ให้การอ้างว่า นายรูฮัน ผู้เสียหาย เป็นคนทักแชทมาพูดคุยตีสนิทก่อนหน้านี้ประมาณเดือนเศษ ในตอนนั้น นายรูฮัน ยังอยู่ประเทศบ้านเกิด จนกระทั่งคืนเกิดเหตุ นายรูฮัน เดินทางมาประเทศไทย แล้วชักชวนเธอไปสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในถนนวอล์กกิ้งสตรีท พัทยา เธอจึงได้ขับรถจากระยอง เพื่อไปเที่ยวกับนายรูฮัน เมื่อทั้งคู่พบกัน ปรากฎว่า นายรูฮัน มีอาการเมามายอยู่แล้ว หลังจากเที่ยวเสร็จได้พากันไปเปิดโรงแรม และขึ้นมาที่ห้องพัก นายรูฮันได้ยื่นเงินจำนวนมากให้กับเธอ เพื่อไปซื้อเหล้ามากินต่อ ส่วนนายรูฮัน บ่นว่าอากาศร้อนและเข้าไปอาบน้ำ จังหวะนั้นเธอเกิดเปลี่ยนใจ ได้เอาเงินจำนวนดังกล่าวหลบหนีไป ส่วนโทรศัพท์มือถือ ที่เอามาเพราะกลัวถูกถ่ายรูป ระหว่างทางกลับได้โยนทิ้งเข้าป่าข้างทาง
อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เนื่องจากระหว่างเข้าเช็คอินที่โรงแรม นางนภาพร ได้ใช้ชื่อ และเบอร์โทรศัพท์ปลอมเขียนลงในใบจดบันทึกผู้เข้าพักของทางโรงแรม และยังคงให้การสับสนวกไปวนมา ตำรวจมั่นใจว่ามีหลักฐานสามารถเอาผิดได้ จึงควบคุมตัว นางนภาพร ส่งพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.