สำนักการศึกษาเมืองพัทยาตอบกระทู้สม. พัทยา มั่นใจครุภัณฑ์มีเพียงพอ หลังห่วงโครงการโรงเรึยนโรงหนังใช้งบฯไม่คุ้มค่า
ที่ ห้องประชุมสภาเมืองพัทยา มีการจัดประชุมสภาเมืองพัทยา สมัยสามัญ สมัยที่สาม ครั้งที่ 1 ประจำปี 2566 โดยในการประชุม สมาชิกสภาฯ ได้ตั้งกระทู้ถามแนวทางการดำเนินการ 2 โครงการ คือ 1.โครงการส่งเสริมศักยภาพด้านภาพยนต์ให้กับเยาวชนเมืองพัทยา หรือโรงหนังโรงเรียน และ 2.โครงการขับเคลื่อนเมืองพัทยาสู่เมืองสร้างสรรค์ภาพยนตร์สู่ยูเนสโก ว่า โครงการโรงหนังโรงเรียนคือการเรียนรู้หนังสั้นนั้น จากสอบถามฝ่ายบริหารว่าอุปกรณ์เครื่องมือในการดำเนินการ ทั้งกล้อง คอมพิวเตอร์ เครื่องมือการตัดต่อ และการเขียนบท โรงเรียนในสังกัดเมืองพัทยามีความพร้อมที่จะดำเนินการหรือยังในขณะนี้ ทั้งนี้ด้วยความห่วงใยจากสภาพโรงเรียนในสังกัดเมืองพัทยาหลายๆ แห่งที่ยังประสบปัญหาจากการร้องเรียนเข้ามาทั้งเรื่องของสภาพห้องสุขายังทรุดโทรมอยู่เลย และปัจจุบันบางโรงเรียนยังขาดนักการภารโรง จึงอยากให้ฝ่ายบริหารมามองปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนในขณะนี้ ก่อนที่จะไปดำเนินการโครงการทั้ง 2 โครงการในอนาต ซึ่งการดำเนินโครงการขับเคลื่อนเมืองพัทยาสู่เมืองสร้างสรรค์ภาพยนตร์สู่ยูเนสโกและโรงหนังโรงเรียนถือเป็นเรื่องดีแต่ความรู้ทางด้านการทำหนังโรงเรียนในสังกัดเมืองพัทยายังไม่มี จะต้องไปจ้างที่ปรึกษามาช่วยดำเนินการ และจะต้องมีการลงทุนในการดำเนินการจำนวนมากหวั่นงบประมาณที่จะมานำมาดำเนินการจะไม่คุ้มค่าและไร้ประโยชน์ที่จะต้องนำงบ 10 กว่าล้านไปเสียเปล่า เมื่อจะต้องใช้งบ 10 กว่าล้าน ต้องว้าวไม่ใช่แค่ยี้
ด้านนายเฉลิมพล ผลลูกอินทร์ สมาชิกสภาเมืองพัทยา ได้มีการกล่าวเสริมต่อเกี่ยวกับ 2 โครงการที่โรงเรียนในสังกัดเมืองพัทยา ว่า ที่ผ่านมาได้มีการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนเมืองพัทยา 5 (บ้านเนินพัทธยาเหนือ) พบว่าเมืองพัทยาจะให้เป็นเมืองแห่งภาพยนต์แต่ทางโรงเรียนยังขาดอุปกรณ์ในการดำเนินการและเรียนรู้ แล้วจะให้โรงเรียนขับเคลื่อนไปสู่เมืองภาพยนตร์ของยูเนสโกได้อย่างไร
ขณะที่ นายวีรพัฒน์ กุดแถลง ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการจัดการศึกษาในระบบและนอกระบบ ตอบกระทู้ข้อสักถามโครงการส่งเสริมศักยภาพด้านภาพยนต์ให้กับเยาวชนเมืองพัทยา หรือโรงหนังโรงเรียน และโครงการขับเคลื่อนเมืองพัทยาสู่เมืองสร้างสรรค์ภาพยนตร์สู่ยูเนสโก ของสมาชิกสภาเมืองพัทยา ว่าสำหรับโครงการที่สำนักการศึกษาเสนอขึ้นมานั้น เป็นการดำเนินการทำเรื่องระดับโลก ซึ่งยูเนสโกเป็นหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ เรื่องภาพยนตร์เป็นเรื่องทางวัฒนธรรม ดังนั้นสิ่งที่สำนักการศึกษาดำเนินการคือสิ่งที่ในตัวชี้วัดในการดำเนินการของเมืองพัทยาในการเป็นเมืองภาพยนตร์ จึงมีความสำคัญ ส่วนข้อห่วงใยของสมาชิกสภาเมืองพัทยาในเรื่องการดำเนินการให้ไปสู่การจัดทำเมืองภาพยนตร์ในเรื่องของครุภัณฑ์ที่ยังไม่มีโดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นครุภัณฑ์ที่สำคัญในการตัดต่อ จึงอยากชี้แจงว่าการดำเนินงานของสำนักการศึกษาเมืองพัทยามี 2 ส่วน คือ 1.การเตรียมบุคลากร เตรียมนักเรียน เตรียมโรงเรียนและเตรียมหลักสูตร เพื่อให้โรงเรียนมีหลักสูตรที่รองรับความเป็นเมืองภาพยนตร์และเตรียมนักเรียนให้มีทักษะ เพื่อรองรับหลักสูตร ปี 2566 โดยได้มีการวางรากฐานไว้แล้วใน 11 หลักสูตรกับ 372 นักเรียนตัวอย่าง และประสบความสำเร็จในปีการศึกษา 2566 ซึ่งโครงการหลักสูตรภาพยนตร์เป็นโครงการที่เมืองพัทยา นำเข้าประเมินเป็นโครงการดีเด่นของเมืองพัทยา เพื่อประเมินโบนัสของพนักงานเมือง ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ
สำหรับข้อกังวลในเรื่องครุภัณฑ์อย่างคอมพิวเตอร์ ปี 2566 การจัดซื้อครุภัณฑ์อยู่ระหว่างการจัดหาโดยได้ผู้ชนะการประมูลแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการลงนามสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อส่งมอบครุภัณฑ์ให้กับโรงเรียนต่อไป และในปี 2567 สำนักการศึกษาหวั่นว่าคอมพิวเตอร์จะไม่เพียงพอจึงได้มีการของบประมาณเพื่อการเรียนการสอนและเพื่อการจัดทำภาพยนตร์จำนวน 84 ชุด จึงอยากชี้แจงว่าสิ่งที่สมาชิกสภาเมืองพัทยาเป็นกังวลนั้นมีความเพียงพอ