อี.ไอ.พี ประเทศไทย จับมือ 3 บริษัทผู้นำนวัตกรรมจากเอเชีย มุ่งพาไทยก้าวสู่ความล้ำหน้าทางนวัตกรรมและเทคโนโลยีแห่งอนาคต

เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2566 บริษัท อี.ไอ.พี. (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งโดย มร.วีดี้ ชเวง (Mr. Vidy Cheung) และ น.ส.อนา วงศ์สิงห์ ผู้บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท คิงดอม พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัทพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย เจ้าของโครงการใหญ่มากมาย อาทิ Southpoint Pattaya โครงการคอนโดหรูระดับไฮเอนท์ ที่อยู่ในทำเลที่ดีที่สุดของพัทยา, โครงการ The Bay Shopping Mall และ โครงการ AW Wellness เป็นต้น จากวิสัยทัศน์ของทั้ง 2 ผู้บริหารที่มุ่งมั่นและต้องการ เป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญของภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทย ในการร่วมมือ วิเคราะห์ วิจัย สู่เป้าหมาย ซึ่งจะส่งผลในภาพรวม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศไทยและการส่งออกในห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคเอเชียแบบยั่งยืน เช่น การสร้างงาน, การสร้างเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกมนุษย์ โดยทาง บริษัท อี.ไอ.พี (ประเทศไทย) จำกัด ได้มีนโยบายพร้อมเล็งเห็นความสำคัญของพันธมิตรการลงทุนการค้าอย่างมีความเข้าใจร่วมกัน เพื่อบรรลุความสำเร็จสู่เป้าหมายเดียวกัน ซึ่งเป็นที่มาของการจัดงานพิธีลงนามสัญญาร่วมทุนระหว่างบริษัทไทยและฮ่องกง ถึง 3 บริษัท กับ 4 กิจการ ในครั้งนี้ ในการลงนามครั้งนี้จะเป็นการลงนามเพื่อเปิดกิจการร่วมค้า (JointVenture) ทั้งหมด 4 บริษัท ดังนี้

1. บริษัท อะเวอร์เต้ กรีน เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด (Averte Green Technology (Thailand) Company Limited) กิจการร่วมค้าระหว่าง บริษัท อี.ไอ.พี. (ประเทศไทย) จำกัด กับ บริษัท อะเวอร์เต้ โกลบอล จำกัด (สิงคโปร์) (Averte Global PTE Ltd.) ได้รับเกียรติลงนามโดยมร.รอย ฟง (Mr.Roy Fung) ประธานกรรมการบริหาร (CEO) มีจุดประสงค์ในการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนอย่างยั่งยืน (Technology Sustainable and Renewable) โดยมีการตั้งเป้าสนับสนุนการลงทุนในประเทศไทยเป็นจำนวน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับ โครงการพลังงานสีเขียว

2. บริษัท อะเวอร์เต้ อิเลกทริค วิเฮเคิล (ประเทศไทย) จำกัด (Averte Electric Vehicle (Thailand) Company Limited) กิจการร่วมค้าระหว่าง บริษัท อี.ไอ.พี. (ประเทศไทย) จำกัด กับ บริษัท อะเวอร์เต้ โกลบอล จำกัด (สิงคโปร) (Averte Global PTE Ltd.) ได้รับเกียรติลงนาม โดย มร.แคเรนซ์ แชน (Mr. Clarence Chan) กรรมการบริหาร (Executive Director) มีจุดประสงค์ในการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิต และจัดจำหน่าย Electric Motorbike หรือจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยตั้งเป้าหมาย ในการจำหน่าย Electric Motorbike จำนวน 2 ล้านคันภายในเวลา 3 ปี โดยเริ่มจากการนำเข้า และหลังจากนั้นจะเป็นการผลิตภายในประเทศในการนำเทคโนโลยีพัฒนาต่อยอดเพื่อการสร้างโรงงานผลิตจักรยานยนต์ไฟฟ้าและส่งเสริมการสร้างงานด้านอาชีพ แห่งแรกในประเทศไทยในปี 2568 ที่จะถึงนี้

3.บริษัท เนเจอร์-อีไอพี ไบโอเทค กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (Nature-EIP Biotech Group (Thailand) Co.. Ltd) กิจการร่วมค้าระหว่าง บริษัท อี.ไอ.พี (ประเทศไทย) จำกัด กับ บริษัทเนเจอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ไบโอ-เทค จำกัด (ฮ่องกง) (Nature International Bio-Tech Company Limited) ได้รับเกียรติลงนามโดย นายแมททิว แทง (Mr.Matthew Tang) ประธานกรรมการบริหาร (CEO) มีจุดประสงค์ในการดำเนินธุรกิจด้านการเกษตรแต่ตั้งต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เช่น พัฒนาเทคโนโลยีด้านการเกษตร ที่เรียกว่า Agri-enzyme (อากริ – เอนไซม์) (Distribution and Production on agricultural Agri-enzyme products) เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อส่งเสริมเกษตรกรในประเทศไทยสู่วัตถุประสงค์ความสำเร็จผลผลิตและบริหาร การจำหน่ายร่วมกัน แบบยั่งยืน รวมถึงการวิจัยและผลิตผลผลิตทางการเกษตรเพื่อเป็นอาหารทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้บริโภค (Plant Base) ที่คิดค้นและวิจัยด้วยนวัตกรรมใหม่ มุ่งเน้นทางด้านคุณภาพทางด้านโภชนาการและการเกษตรที่ยั่งยืน

4. บริษัท พาวิลเลี่ยน-อีไอพี พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (Pavilion-EIP Property (Thailand) Company Limited) กิจการร่วมค้าระหว่าง บริษัท อี.ไอ.พี. (ประเทศไทย) จำกัด กับ บริษัท พาวิลเลี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (ฮ่องกง) (Pavillion Property Ltd.) ได้รับเกียรติลงนามโดย มร.แอแลนด์ แลม (Mr. Alan Nam) ประธานบริษัท (Chairman) โดยมีจุดประสงค์ในการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยมุ่งเน้นทางด้านความล้ำสมัย ความบันเทิง และ สุขภาพ (Develop Trendy/Leisure/Wellness Theme-Based Properties)

ในพิธีลงนามความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างไทยและฮ่องกงในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก นางสาวฐิติลักษณ์ คำพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี, ดร.ธัชพล กาญจนกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาค ตะวันออก (EEC), นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา, นางสาวภารดี เผือกโสภา ปลัดอาวุโสอำเภอบางละมุง และนายอนุชา เพียรใจ นายกเทศมนตรีตำบลโป่ง ร่วมเป็นสักขีพยาน รวมถึงกล่าวแสดงความยินดีกับ บริษัท อี.ไอ.พี. (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมกล่าวต้อนรับ ผู้บริหารจากฮ่องกงอีกด้วย

สำหรับความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้ นอกจากเป็นการขานรับนโยบายจากภาครัฐในเขตพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออก (EEC) ตามแผนยุทธศาสตร์ภายใต้ไทยแลนด์ 4.0 แล้วยังถือเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญของการพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีในการกระตุ้นเศษฐกิจของประเทศไทยอย่างยั่งยืนในองค์รวม ไม่ว่าจะเป็นด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การพัฒนาผลผลิตและต่อยอดผลิตผลทางการเกษตรเพื่อการส่งออก การสร้างรายได้และอาชีพให้กับประชากรไทยและการต่อยอดพัฒนาความรู้ทางนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ต่อไปอีกด้วย