+อาชญากรรม

ศาลาวัดเต็ม “นายกเกล็ดแก้ว” เปิดศาลาประชาคม ตั้งศพเจ้าของวันเกิด เหยื่อผับมรณะ “เม้าน์เทน บี”

ที่ศาลาประชาคม หมู่ 7 บ้านหนองหญ้า ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา นายยศวัฒน์ ภูวรัตน์เลิศคุณ นายกเทศมนตรีตำบลเกล็ดแก้ว ได้มาอำนวยความสะดวก ในการจัดตั้งพิธีสวดอภิธรรมศพ นายธนกฤต นีน้อย อายุ 36 ปี เหยื่อเหตุการณ์ไฟไหม้ “เมาน์เทน บี” รายที่ 15 เจ้าของงานวันเกิดในคืนเกิดเหตุ ซึ่งในกลุ่มของนายธนกฤต ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดถึง 3 รายและบาดเจ็บอยู่ในกลุ่มสีแดงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 3 คน และ 1 ใน 3 ของผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นภรรยาของผู้ตาย คือนางสาวนลินี บุญประเสริฐ ยังรักษาตัวอยู่รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ กทม. ซึ่งถูกไฟคลอกใบหน้าและแผ่นหลัง อาการเป็นตายเท่ากัน

นายยศวัฒน์ เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากพ่อผู้ตาย แจ้งว่าศาลาวัดในพื้นที่ เทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว เต็มทุกศาลา จากเหตุการณ์ไฟไหม้ เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ที่มีคำสั่ง ให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่อำเภอสัตหีบ อำนวยความสะดวกกับเหยื่อเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนี้อย่างเต็ม ทางเทศบาลจึงตัดสินใจ เปิดใช้ศาลาประชาคมแห่งนี้ ซึ่งเคยเป็นอาคารกองอำนวยการโควิด-19 ประจำหมู่บ้าน แต่เมื่อมีความจำเป็นในเหตุการณ์นี้ ทางเทศบาลจึงจัดให้เป็นสถานที่สวดอภิธรรมศพผู้เสียชีวิตรายนี้ ซึ่งเป็นลูกบ้านในหมู่บ้านหนองหญ้า พร้อมกับประสานกับทางวัด จัดยืมโลงเย็น อาสนะสงฆ์ ร่วมถึงเครื่องใช้ในพิธีกรรมของสงฆ์ทั้งหมด โดยเทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว จะอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่างตามที่ญาติจะร้องขอ

นายกเทศมนตรีตำบลเกล็ดแก้ว กล่าวอีกว่าในคืนเกิดเหตุ ทางเทศบาลฯได้จัดรถดับเพลิงและทีมงาน ไปร่วมสนับสนุนที่เกิดเหตุ และได้เห็นเหตุการณ์ก็พูดอะไรไม่ออก และไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการเกิดขึ้นครั้งแรกในพื้นที่ อ.สัตหีบ จึงอยากให้ทุกภาคส่วนในพื้นที่สัตหีบ ช่วยเหลือกันในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้ทุกคนในเมืองสัตหีบ ผ่านเรื่องราวเหตุการณ์ในครั้งนี้ไปได้

ด้านนางสาวนิตยา นีน้อย อายุ 30 ปี น้องสาว และนางอัจฉรา นีน้อย อายุ 63 ปี มารดาของผู้ตาย ร่วมกันเปิดเผยว่า ครอบครัวยังยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะผู้ตายเป็นเสาหลักของครอบครัว โดยมีกิจการเปิดร้านขายของชำอยู่ในหมู่บ้าน ในวันเกิดเหตุ เป็นวันเกิดของผู้ตาย หลังจากที่กินเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้านแล้ว ช่วง 5 ทุ่ม ก็พากันปิดบ้าน แล้วไปต่อที่ เมาน์เทน บี จนกระทั่งภรรยาผู้ตายโทรศัพท์มาแจ้ง หลังจากนั้นก็ติดต่อใครไม่ได้อีกเลย พยายามไปตามหาที่โรงพยาบาลต่างๆ ก็ไม่เจอ รู้อีกที ผู้ตายถูกย้ายไป รพ.ระยอง ส่วนภรรยาถูกย้ายไป รพ. รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ ก่อนที่ผู้ตายจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่ รพ.ระยอง

ญาติเหยื่อเพลิงรายนี้ กล่าวอีกว่านอกจากนี้เมื่อวานที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อประสานจาก เมาท์เทน บี เพื่อแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ แต่ทางครอบครัวยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการเรียกร้องเงินทอง แต่ก่อนหน้านี้สิ่งที่ครอบครัวต้องการ คือการรักษาชีวิตของผู้ตายและการได้รับการรักษาอย่างดี เพื่อรักษาชีวิต แต่ก็ไม่มีการติดต่อ หรือส่งตัวแทนมาลงมาดูแล และถือว่าช้ามาก จนตอนนี้คนตายได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนภรรยาของผู้ตาย ก็ยังโคม่าอยู่

ญาติผู้ตายระบุด้วยว่าสำหรับส่วนเรื่องของคดี ยอมรับว่าทางครอบครัว ติดใจทุกส่วน โดยเฉพาะในเรื่องของประตูทางออก เพราะจากตามข่าว ทางร้านพูดอีกแบบ ส่วนคนที่อยู่ในเหตุการณ์พูดอีกแบบ ซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยทางร้านอ้างว่าประตูเปิด ถ้าเปิดจริงทุกคนในผับต้องรอด คนหนีตายยังไงต้องหาทางออก แต่ทำไมทุกคนต้องวิ่งมาออกันที่ประตูด้านหน้า ถ้าประตูเปิดทั้งหมดจริง ทุกคนต้องออกได้ทุกประตู และเชื่อว่าประตูเปิดคนตายและคนเจ็บ ต้องรอดทุกคน