ยังไงไม่หวั่น…แม้ยังอยู่ขั้นพิจารณาอุทธรณ์ที่ห้ามทำกิจการใดๆ แต่ไร้หน่วยงานจัดการ “สกายเมาเท่น” เตรียมจัดคอนเสิร์ตใหญ่ สัปดาห์นี้

แม้ว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จากสำนักการช่างเมืองพัทยา จะได้รับแจ้งว่ามีการตรวจพบว่าอาคารที่ก่อ สร้างภายในแปลงที่ดินของ บ.อาชาแลนด์ แหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ ที่รุกล้ำที่ดินสาธารณะเชิงเขาพระตำหนักในพื้นที่บางส่วนของพื้นที่อาคารโดยรวม พร้อมก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้เสนอคำสั่งให้มีการปิดประกาศหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ตามแบบ ค.3 หรือคำสั่งให้ระงับการก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อน ย้ายอาคาร ตามมาตรา 40 วรรคหนึ่ง หรือให้ระงับการรื้อถอนอาคารตามมาตรา 41 วรรคหนึ่ง กรณีที่กระทำโดยไม่ได้รับใบอนุญาต แบบ ค.4 คำสั่งห้ามใช้อาคารหรือยินยอมให้บุคคลใดใช้อาคารที่อาจเป็นภยันตราย ตามมาตรา 40 วรรคหนึ่งหรือมาตรา 41 วรรคหนึ่ง กรณีที่ไม่ได้รับใบอนุญาต และ แบบ ค.5 คำสั่งให้ระงับการก่อสร้าง ดัดแปลง เคลื่อนย้ายอาคาร ตามมาตรา 40 วรรคหนึ่งหรือให้ระงับการรื้อถอนอาคาร ตามมาตรา 41 วรรคหนึ่ง

เจ้าหน้าที่สำนักการช่างเมืองพัทยาแจ้งว่าที่ผ่านมาทางเอกชนรายนี้ได้มายื่นขออนุญาตปลูกสร้างอาคารในแปลงที่ดินดังกล่าว ซึ่งตามกฎหมายยังคงสามารถกระทำได้แม้ว่าศาลฎีกาจะมีคำพิพากษาให้เพิกถอนโฉนดไปแล้วก็ตาม แต่กรมที่ดินยังมิได้ดำเนินการ โดยทางผู้เช่ายังอ้างว่าถือโฉนดครอบครองและสัญญาเช่าถูกต้อง

แต่จากการตรวจสอบรายละเอียดพบว่ามีพื้นที่ของอาคารมีแนวรุกเข้าไปในที่ดินสาธารณะเชิงเขาพระตำหนักบางส่วน จึงได้ออกหมายประกาศคำสั่งตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ซึ่งทางผู้เช่าได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดชลบุรี ที่ปัจจุบันกำลังรอผลการพิจารณาอยู่

จึงถือว่าในช่วงเวลาดังกล่าว ภาคธุรกิจฝ่าฝืนคำสั่งตามกฎหมายควบคุมอาคารที่ให้ระงับการใช้อาคาร

รวมทั้งที่ผ่านมายังการฝ่าฝืนคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ที่มีคำสั่งให้ปิดเป็นเวลา 30 วัน ซึ่งตามหลักกฎหมายแล้วตามคำสั่งหมายของ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ทั้งหมดระบุว่าไม่อนุญาต/ยินยอมให้ใช้อาคารหรือให้บุคคลใดใช้อาคารที่อาจเป็นภยันตรายตามมาตรา 40 วรรคหนึ่งหรือมาตรา 41 วรรคหนึ่ง กรณีที่ยังไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งคำสั่งตามแบบ ค.5 ที่ให้ระงับการก่อสร้าง ดัดแปลง เคลื่อนย้ายอาคาร จนกว่าจะมีการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดชลบุรีแล้วเสร็จ

นายสุริยา แก้วเขียว ผอ.ส่วนควบคุมอาคาร สำนักการเมืองพัทยา เมื่อมีการตรวจพบว่ามีการการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตเมืองพัทยาก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ด้วยการปิดหมายตามคำสั่งว่าด้วย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ซึ่งแม้จะเป็นที่ดินที่มีเอกสารการเช่าถูกต้อง แต่การสร้างอาคารถาวรโดยไม่ได้ขออนุญาตก่อนถือว่าเป็นความผิด จึงได้ไปแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองพัทยา พร้อมปิดหมายตามข้อ กำหนด ซึ่งช่วงของการพิจารณานี้ทางร้านยังคงไม่สามารถเปิดดำเนินการใดๆได้จนกว่าจะมีคำสั่งถึงที่สุด แต่เมื่อมีการจัดกิจกรรมในร้านระหว่างนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพียงแต่เมืองพัทยาไม่มีอำนาจหน้าที่เข้าไปจัดการได้ ขณะเดียวกันยังพบว่ามีการก่อสร้างต่อเติมในส่วนเพิ่มเติมอย่างอื่น ซึ่งเมืองพัทยาก็ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่นิติกรไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองพัทยา เช่นกัน รวมทั้งรอการนำเสนอเรื่องต่อผู้บังคับบัญชาในการออกหมายคำสั่งปิดประกาศอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีดังกล่าวน่าจะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่นที่ต้องเข้าไปควบคุมการจัดกิจกรรมของร้าน อาทิ สภ.เมืองพัทยา ที่เมืองพัทยาได้แจ้งดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารไปแล้ว ก็ควรส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปแจ้งด้วยวาจาว่าให้ยกเลิกไปก่อนจนกว่าการพิจารณาของคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ จะแล้วเสร็จ

ดังนั้นหากยังคงปล่อยให้มีการดำเนินการต่อไปเช่นนี้ น่าจะเข้าข่ายปล่อยปละละเลยต่อคำสั่งเจ้าพนักงานได้

คงต้องมารอดูกันต่อไปว่างานนี้จะจัดได้หรือไม่?

เพราะหากยังคงปล่อยให้ดำเนินการ

เจ้าหน้าที่ของรัฐเองก็อาจมีความผิดฐานเข้าข่าย ม.157 ได้ เช่นกัน!!

อั๋น พันดาว