+กรมเจ้าท่าชุมชนสิ่งแวดล้อม

เจ้าท่าพัทยา บูรณาการร่วม 3 หน่วยงาน ขอคืนที่สาธารณะ ลุยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 5 แห่ง รุกล้ำชายหาดนาจอมเทียน

นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา พร้อมด้วย นายพิเชฐ ธรรมโหร ปลัดอำเภอสัตหีบ เจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลนาจอมเทียน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสัตหีบ และเจ้าหน้าที่ศร.ชล จังหวัดชลบุรี สนธิกำลังเจ้าหน้าที่นำอุปกรณ์และรถแบ็กโฮ 1 คัน ไปที่ชายหาดนาจอมเทียน หมู่ที่ 2 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างประเภทอาคารเพิงไม้รุกล้ำชายหาด ระยะทาง 500 เมตร หลังมีคำสั่งให้ดำเนินการรื้อถอน และห้ามใช้อาคารตาม ม.118 ทวิ วรรคหนึ่งภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ 1 พ.ย.2564

เบื้องต้น ชาวบ้านส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือในการขนย้ายสิ่งของออกจากพื้นที่แต่โดยดี ส่วนเจ้าหน้าที่ได้เข้ารื้อสิ่งปลูกสร้างบนพื้นที่ชายหาดที่มีลักษณะเป็นเพิงไม้ ซึ่งชาวบ้านจัดสร้างเป็นร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม โดยใช้เวลารื้อถอนประมาณ 6 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ

ด้านนายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา เปิดเผยว่า เจ้าท่าพัทยาได้บูรณาการในหลายหน่วยงานในพื้นที่อำเภอสัตหีบในการดูแลรักษาพื้นที่ชายหาด ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ หลังจากที่เจ้าท่าได้ตรวจสอบข้อร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2564 พบว่ามีผู้บุกรุกปลูกสร้างอาคารลักษณะเป็นร้านประกอบกิจการขายอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บนพื้นที่ชายหาดนาจอมเทียน หมู่ 2 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ระยะทาง 500 เมตร ที่ผ่านเจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าพัทยาได้แจ้งให้ผู้ประกอบการทั้ง 5 ราย ทราบถึงการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายตามพ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย ฐานปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่าและมีคำสั่งให้ผู้ประกอบการทั้ง 5 ราย รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ชายหาดภายระยะเวลา 30 วัน

เมื่อถึงกำหนดตามคำสั่งดังกล่าว อีกทั้งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบตามขั้นตอนของกฎหมาย ผู้ประกอบการไม่ได้ยื่นเรื่องอุทธรณ์คําสั่งแต่อย่างใด โดยเจ้าหน้าที่ให้สิทธิประชาชนในการต่อสู้ในเรื่องของกรรมสิทธิและใบอนุญาตในพื้นที่ดังกล่าวว่าได้มาอย่างไร แต่ก็ไม่มีการอุทธรณ์คําสั่ง ทั้งนี้เมื่อครบอุทธรณ์คําสั่งแล้ว เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้ง 5 รายออกไปจากพื้นที่ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อคืนพื้นที่ชายหาดให้กับประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน

นายเอกราช เปิดเผยอีกว่า ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการรื้อถอนมีเพียงบางรายเท่านั้นที่ยังไม่เข้าใจ กรมเจ้าท่าก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ด้วยกรมเจ้าท่า ฝ่ายปกครองและเทศบาลมีหน้าที่ในการดูแลพื้นที่สาธารณะตามกฎหมาย อีกทั้งในส่วนพื้นที่ชายหาดเจ้าท่าจะมีการบูรณะให้เป็นพื้นที่ที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืนต่อไป

หลังจากนี้จะมีการหารือในหลายภาคส่วนในการบริหารจัดการพื้นที่สาธารณะ ประเภทพื้นที่ชายหาดนาจอมเทียน หมู่ 2 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ด้วยพื้นที่ดังกล่าวมีประชาชนส่วนใหญ่เข้ามาพักผ่อนจำนวนมาก ส่วนการทำมาหากินของประชาชนในพื้นที่นั้นจะต้องได้รับความเห็นชอบจากหลายภาคส่วนในการใช้พื้นที่สาธารณะชายหาดนาจอมเทียน หมู่ 2 โดยจะมีการประชุมหารือร่วมทั้งกรมเจ้าท่า เทศบาล ฝ่ายปกครองและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการพิจารณาการใช้ระเบียบคล้ายกับพื้นที่ชายหาดเมืองพัทยาต่อไป.