ผกก.สภ.เมืองพัทยา ลั่นให้ความเป็นธรรมหนุ่มถูกพนักงานร้านอาหารดังพัทยา รุมทำร้าย 16 ต่อ 2
ความคืบหน้ากรณีผู้ใช้เฟสบุ๊ค Joke JZ ไลฟ์ภาพเหตุการณ์ ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาข่วยเหลือ หลังจากถูกรุมทำร้ายร่างกาย จนมีแผลเต็มตัวเลือดอาบใบหน้า ซึ่งผู้โพสต์ระบุว่า ถูกรุม 16 ต่อ 2 โดยระบุว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.วันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ผู้บาดเจ็บและเพื่อนอีก 1 คน เข้าไปพูดคุยทักทาย เพื่อนเก่า ซึ่งทำงานเป็นพนักงานบาร์น้ำ ของร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ แหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และระหว่างพูดคุยมีการส่งเสียงดังตามประสาเพื่อน จนดูเหมือนมีปากเสียงกัน ทำให้พนักงานคนอื่นเข้าใจผิด และไปแจ้งเจ้าของร้าน ว่าผู้บาดเจ็บก่อกวนและสร้างความเดือดร้อนภายในร้าน ทำให้เจ้าของร้าน การ์ด และพนักงานรายอื่นๆ มายืนล้อมและเมื่อออกมานอกร้าน ทางการ์ดและพนักงานกว่า 15 คน มีอาวุธทั้งท่อแป๊ป ขวด ไม้ และมีด ได้เข้ามารุมทำร้ายตนเองและเพื่อน และได้เข้าแจ้งความไว้ที่สภ.เมืองพัทยา ไว้แล้ว และยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ต่อมาเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 13 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายวรินทร์ สายวัน อายุ 34 ปี เพื่อนนายบรรพต อายุ 36 ปี ผู้บาดเจ็บที่ไลฟ์ภาพหลังเหตุการณ์ถูกรุมทำร้าย ระบุว่าก่อนเกิดเหตุได้ขี่จยย.ไปสองคน ประมาณตีสอง ตีสาม เมื่อไปสั่งเครื่องดื่มที่ร้าน แต่ทางร้านไม่จำหน่ายให้ จึงพากันออกมานั่งด้านนอกร้าน บริเวณชายหาด ต่อมาคนเจ็บได้เดินเข้าไปคุยกับเพื่อน ซึ่งทำงานอยู่ในร้านเกิดเหตุ กระทั่งกลุ่มพนักงานปรี่เข้าทำร้ายเพื่อนจนได้รับบาดเจ็บ ตนเองพยายามห้ามปรามแต่ก็โดนลูกหลงไปบ้าง
นายวรินทร์ยังเล่าอีกว่า มีผู้ชายลักษณะคล้ายทหารเดินเข้ามาสอบถาม ว่ารู้จักผมไหม ผมไม่ใช่ทหาร ไม่ใช่ตำรวจ แต่สามารถสั่งตำรวจได้ ตนเองตอบว่าไม่รู้จัก ตนเป็นนักท่องเที่ยว ตนเองรู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความไม่ปลอดภัยให้กับตนเอง รวมถึงนักท่องเที่ยวคนอื่นเป็นอย่างยิ่ง เปรียบเสมือนเหตุการณ์ซ้ำๆ ที่เคยเกิดขึ้น ไม่มีการยกระดับขึ้นเลย
ด้าน พ.ต.อ.กุลชาต กุลชัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.กัลป์ กลิ่นศรี รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา สั่งการให้สอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมสั่งการให้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดอีกครั้ง เพื่อค้นหาข้อเท็จจริง เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายต่อไป
จากนั้นช่วงดึกวันเดียวกัน พ.ต.ท.เกริกฤทธิ์ สายวรรณะ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ต.กองพล เดชะคำภู สวป.สภ.เมืองพัทยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เข้าตรวจสอบร้าน สกายเมาท์เท้น แหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ พบนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ นั่งดื่มและรับประทานอาหารกันเป็นจำนวนมาก จึงสั่งให้หยุดการแสดงดนตรี ให้ลูกค้าเช็คบิลปิดให้บริการในทีนที โดยสถานบริการดังกล่าวนั้นก่อนหน้านี้เคยถูกเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบ และจับกุมมาแล้วหลายครั้ง เจ้าปัญหาที่เคยถูกจับมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ยังคงเปิดให้บริการได้ตามปกติจนถูกเรียกวว่า เส้นใหญ่ จนกระทั่งถูกจับ ในครั้งที่ 4 จึงได้มีคำสั่งเสนอให้ปิดบริการไปแล้ว แต่ไม่นานก็กลับมาเปิดได้อีกครั้ง กระทั่งมาเกิดเรื่องทำร้ายร่างกายกันในช่วงเช้ามืดดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวพนักงานของร้านบางส่วน มาทำประวัติไว้ที่สภ.เมืองพัทยา ส่วนร้านนั้นได้จับกุมในข้อหา เปิดสถานบริการโดยไม่รับอนุญาต จำหน่ายสุราโดยไม่รับอนุญาต ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี แต่จะมีการคาดโทษเพิ่มเติมหรือเสนอปิดอย่างไรนั่น จะต้องใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ต่อไป.