สพฉ.เดินหน้าปรับระบบการแพทย์ฉุกเฉิน รองรับ EEC พร้อมบูรณาการความร่วมมือจิตอาสากับท้องถิ่น
ที่มูลนิธิวสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา (10 ธันวาคม 2562) นายประสิทธิ์ ทองทิตย์เจริญ ประธานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน พร้อมคณะกรรมการมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ให้การต้อนรับ ผู้เข้าร่วมประชุมซึ่งมาจากมูลนิธิต่างๆในเครือสว่างกว่า 20 มูลนิธิ อาทิ มูลนิธิสว่างประทีปศรีราชา,มูลนิธิสว่างกตัญญูจันทบุรี ,มูลนิธิสว่างอารนิยะ นครนายก ,มูลนิธิสว่างสัจจะ กบินทร์บุรี ,มูลนิธิสว่างบุญช่วยเหลือ ตราด เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้
เรืออากาศเอกอัจฉริยะ แพงมะ เลขาธิการสถาบันแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในการประชุมวันนี้ถือว่าได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากมูลนิธิต่างๆ ในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งต้องเรียกว่าที่ผ่านมาหน่วยงานหลายหหน่วยงานได้ทำงานร่วมกับการแพทย์ฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการพัฒนาความช่วยเหลือ และความร่วมมือกันมาอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากล่าสุดได้มีการนำเฮลิคอปเตอร์เข้ามาในแผนปฏิบัติการช่วยเหลือฉุกเฉินเพื่อรองรับสังคมและศรษฐกิจ EEC ที่จะมาถึง ซึ่งที่ผ่านมาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมด้วย อาจจะแยกออกเป็น 3 ยุคเบื้องต้น
ยุค 1 ยุคจิตอาสา ที่มีภาคประชาชนที่มีจิตอาสา มาร่วมในการทำงานโดยไม่หวังผลตอบแทน ยุค 2 ยุคศูนย์นเรนทร ซึ่งได้มีการก่อตั้งขึ้นมาในปี 2538 โดยกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ดำเนินการจัดตั้ง โดยมองว่ากาช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินนั้นจำเป็นต้องมีแพทย์ไปด้วย ก็จะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็ไม่สามารถให้บริการได้ครอบคลุม หากผู้ป่วยหรือเหตุฉุกเฉินมีระยะทางที่ไกลกว่า 10 กิโลเมตร ก็จะเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน ยุค 3 คือยุคที่ท้องถิ่นจะเข้ามามีบทบาบทในการช่วยเหลือมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะติดปัญหาเรื่องของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.ที่เข้ามามีส่วนดูแลในการกำกับการดำเนินการ ตรวจสอบการดำเนินงานของท้องถิ่น ทำให้มีปัญหาในเรื่องของการทำงาน ซึ่งจากนี้ไป 3 ยุคจะต้องเข้ามามีบทบาทในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันและช่วยในการขับเคลื่อนหน่วยการแพทย์ฉุกเฉินให้มีความสมบูรณ์ ด้วยการบูรณาการความร่วมมือ 3 หน่วยงานร่วมกัน ในอนาคต 1669 อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง อาจจะมีช่องทางอื่นในการประสานความร่วมมือระหว่าง 3 หน่วยงานนี้ขึ้นมาแทน เพื่อจ่ายงานไปตามหน่วยงานที่ตรงตามความช่วยเหลือ
สำหรับระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน คือ ระบบที่มีการเตรียมความพร้อมในด้านทรัพยากรและบุคลากรที่จะให้บริการรักษาพยาบาลทางการแพทย์แก่ผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยฉุกเฉินทั้งนอกและในโรงพยาบาล การรักษาในห้องฉุกเฉินของแต่ละโรงพยาบาลมักเป็นแนวตั้งรับ กล่าวคือ ให้การรักษาแก่ผู้ป่วยที่มีอาการและมาถึงโรงพยาบาลแล้ว แต่ในบางครั้งผู้ป่วยมีอาการเฉียบพลันนอกโรงพยาบาล ซึ่งถ้าให้การรักษาตั้งแต่ที่บ้าน หรือ ณ ที่เกิดเหตุ ย่อมสามารถช่วยชีวิตหรือให้การรักษาเบื้องต้นที่ดีได้ก่อนที่จะมีอาการลุกลามรุนแรงมากแล้วเมื่อมาถึงโรงพยาบาล