ไม่เกินคาด!เสื้อลายดอกยอดขายไม่ทะลุเป้า หลังเจอพิษโควิดระลอก 3 ผู้ค้าเซ็งรายได้หายไปเกินครี่ง

เทศกาลสงกรานต์ถือว่าเป็นเทศกาลปีใหม่ของพี่น้องชาวไทย ที่มากับการเฉลิมฉลอง แต่ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงเดือนมีนาคม 2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส(โควิด-19) ที่ทำท่าว่าจะคลี่คลาย แต่พอเข้าเดือนเมษายน การแพร่ระบาดกลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง เป็นการแพร่ระบาดระลอกที่3 ที่มีต้นตอมาจากสถานบันเทิงในกรุงเทพมหานคร และลุกลามเชื้อกระจายไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การจัดกิจกรรมต่างๆ ทั่วประเทศ ต้องหยุดชะงักไปโดยปริยาย ภาคธุรกิจได้รับผลกระทบถ้วนหน้า รวมถึงร้านขายเสื้อผ้าที่จะขายดีในหน้าเทศกาลสำคัญ

จากการเปิดเผยของนางสนธยา ศรีบานเย็น เจ้าของร้านปูบูติค ร้านจำหน่ายเสื้อตามเทศกาลเจ้าใหญ่ในพื้นที่อำเภอบางละมุง ว่า ตั้งแต่ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ น่าจะเกิดการแพร่ระบาดของโรคเกิดขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นอน โดยจากการคาดเดาในช่วงเทศกาลต่างๆ มักจะเกิดการระบาดครั้งใหม่เกิดขึ้น มาในครั้งนี้หลังพบว่าเริ่มพบผู้ป่วยในกรุงเทพเพิ่มมากขึ้น ก็เริ่มรู้แล้วว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดน่าจะกลับมา ทำให้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ทางร้านไม่ตุนเสื้อลายดอกมาขายเหมือนหลายปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าหน่วยงานราชการจะใส่เสื้อลายดอกตลอดเดือนเมษายนก็ตาม

เนื่องจากตามโรงเรียน ตามชุมชนต่างๆ งดจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ งดการเล่นน้ำ งดงานประเพณีกองข้าว จะมีแต่พิธีทำบุญและรดน้ำขอพรพระภิกษุสงฆ์และขอพรผู้สูงอายุเท่านั้น จึงทำให้ยอดการซื้อเสื้อลายดอกเพื่อร่วมกันเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ และกระตุ้นการท่องเที่ยวไม่เป็นดังคาด ยอดหายไปเกินครึ่ง แตถือว่ายังดีกว่าปีที่ผ่านมา ที่ขายไม่ได้เลย เพราะที่ช่วงเดือนเมษายน 2563 เพิ่งเข้าสู่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ในครั้งแรก

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสำรวจตลาดขายเสื้อผ้า ยังพอพบเห็นคน ออกมาซื้อหาเสื้อลายดอไปใส่บ้าง เพื่อไปไหว้บรรพบุรุษ ส่วนราคาไม่มีการขยับเพิ่มขึ้น ทำให้ภาพรวมการจำหน่ายเสื้อลายดอกในช่วงสงกรานต์ปีนี้ เป็นไปแบบเรื่อยๆ ไม่ถึงกับซบเซา แต่ก็ไม่คึกคักอย่างที่ควรจะเป็น.