+covid-19ชุมชน

นทท.หาย รายได้วูบ..อดีตประธานก่อตั้งแท๊กซี่พัทยา ผันตัวปลูกเมล่อนขาย สร้างรายได้เป็นเป็นกำ

หนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019(โควิด-19) นายวิเชียร เหลืองอร่าม อดีตประธานกรรมการก่อตั้งแท็กซี่ พัฒนาบ่อทอง จำกัด ผู้คร่ำหวอดวงการรถโดยสารแท๊กซี่มากว่า 9 ปี เปิดเผยว่า ตนเคยมีรถแท็กซี่ จำนวน 4 คัน คันละ 950,000 บาท ตนขับเอง 1 คัน และปล่อยให้คนเช่าขับอีก 3 คัน มีรายได้ต่อวัน 4,000 บาท หรือเดือนละ 120,000 บาท ตนเป็นคนชอบทำสวนผลไม้ จึงไปเรียนรู้วิธีการทำสวนที่วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เพื่อปลูกองุ่นเป็นรายได้เสริม แต่ในภายหลังในปี 2563 กลับเจอวิกฤตโควิด-19 ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่ออาชีพแท๊กซี่อย่างหนัก เมืองพัทยาไม่มีนักท่องเที่ยว รายได้สูญหายวับไปกับตา ประกอบกับอายุของตนเองที่มากขึ้น สายตาเริ่มฝ้าฟาง ทำให้ต้องขายรถแท๊กซี่ออกไป จำนวน 3 คัน เพื่อความอยู่รอด จากสวนผลไม้ที่เป็นอาชีพเสริมจึงกลายเป็นอาชีพหลักในทันที

นายวิเชียร กล่าวอีกว่า สวนผลไม้ดังกล่าวอยู่ที่ซอยจันทร์เพ็ญ หรือ ซอยมาบบอน5/2 หมู่ 3 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เข้าซอยมาราว100 เมตร ขวามือโดยที่สวน นอกจากสวนองุ่นแล้ว ยังปลูกเมล่อนที่ทำเป็นโรงเรือนแบบปิดขนาด 9x13x3 เมตร ที่ล้อมรอบด้วยตาข่ายกันแมลงแบบมิดชิดสีขาว ซึ่งเป็นโรงเรือนเพาะปลูกเมล่อนสายพันธุ์ไข่ทองคำ เป็นสายพันธุ์ไทยของเทพมงคลฟาร์ม ไม่ใช้สารเคมีในการปลูก การเพาะปลูกเมล่อนได้รับผลตอบรับที่ดีมาก เป็นที่น่าพอใจและจะพัฒนาให้ดีกว่านี้ยิ่งๆขึ้นไป

ในส่วนการตลาด และการขายเมล่อนสายพันธุ์ไข่ทองคำนั้น จะขายผ่านทางเพจเฟสบุ๊ค “สวนงุ่นเหมือนฝัน By พี่ใหญ่” ขายทางโทรศัพท์ที่เบอร์(ไอดีไลน์) 092-563-9193 ขายทางไปรษณีย์ และขายคนรู้ที่จัก ซึ่งจะสังเกตได้ว่าเมล่อนแต่ละลูก จะมีชื่อคนที่สั่งจองลูกนั้นๆเขียนไว้บนใบเมล่อนจำนวนมากลง

นอกจากนี้ นายวิเชียร ได้ให้แนวคิดการใช้ชีวิตไว้ว่า “เราควรต้องตระหนักถึงตัวเองตลอดว่าเราอายุมากขึ้น งานที่ทำอยู่เป็นการพึ่งพานักท่องเที่ยวเป็นหลัก ควรหาอาชีพเสริมเพื่อความมั่นคง หากวันหนึ่งเราแก่แล้วสายตาไม่ดีแล้ว เราอาจจะมาปลูกผัก ปลูกผลไม้ไว้ทานเอง แล้วยังขายเป็นรายได้ได้ด้วย”