+ร้องทุกข์

ชาวซอยชัยพรวิถี-หนองใหญ่1/2 วอนทางการช่วยที เดือดร้อนหนักจากน้ำท่วมขัง หลังผู้รับเหมาขุดวางท่อแล้วทิ้งงาน

ที่ ซอยชัยพรวิถี-หนองใหญ่ 1/2 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านในบริเวณดังกล่าวว่า ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักมาร่วม 2 เดือน จากกรณีผู้รับเหมาเข้ามาขุดวางท่อระบายน้ำแล้วไม่ได้มาดำเนินการต่อ ส่งผลให้ปัจจุบันมีน้ำท่วมขังเส้นทาง จนไม่สามารถใช้สัญจรเข้า หรือออกจากบ้านเรือนได้

จากการตรวจสอบพบว่า ซอยชัยพรวิถี-หนองใหญ่ 1/2 ตั้งอยู่ภายในซอยชัยพรวิถี 8 ซึ่งเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็กที่ไม่มีท่อระบายน้ำ ทาง ทม.หนองปรือ จึงได้เร่งวางท่อระบายน้ำภายในซอยเล็กซอยน้อยที่สามารถต่อเชื่อมกับถนนซอยชัยพรวิถี 8 ได้ เพื่อหวังที่จะรองรับระบบระบายน้ำเสียหลักที่อาจจะมีการก่อสร้างในอนาคต ดังนั้นในต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา จึงเริ่มมีการขุดวางระบบท่อระบายน้ำภายใน ซอยชัยพรวิถี-หนองใหญ่ 1/2 ซึ่งชาวบ้านได้ระบุว่า มีการดำเนินงานเพียง 2 วันเท่านั้น หลังจากนั้นเป็นต้นมา ไม่พบเห็นผู้รับเหมาอีกเลย จนกระทั่งฝนฟ้าคะนองตกลงอย่างหนักในพื้นที่ ส่งผลให้ซอยดังกล่าวที่มีผิวถนนเป็นเพียงดินทรายเท่านั้น เกิดภาวะน้ำท่วมขัง ประชาชนไม่สามารถนำรถยนต์ หรือจักรยานยนต์ สัญจรผ่านเข้า-ออกจากบ้านเรือนของตนเองได้ ต้องอาศัยจอดยานพาหนะอยู่ริมถนน เมื่อเวลาผ่านไปเนินนาน ไม่มีวี่แววว่า ทม.หนองปรือ จะเข้ามาแก้ไข ชาวบ้านจึงรวมตัวกันไปเขียนคำร้องให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดูแล แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

นอกจากนี้ น้ำที่ท่วมขังอยู่ตลอดซอย ระยะทางประมาณ 100 เมตร บางส่วนเริ่มมีสภาพเป็นน้ำเน่า กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ที่อาจเป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออก ประกอบกับน้ำที่ท่วมขังยังไหลบ่าออกไปบนถนนเส้นหลัก คือ ซอยชัยพรวิถี 8 ซึ่งไม่มีท่อระบายน้ำทั้งเส้น น้ำจึงไปเอ่อข้างอยู่สองฟากของถนน ทำให้เมื่อมียานพาหนะขับผ่านบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง ประชาชนที่มีบ้านอยู่ใกล้ถนนจะถูกน้ำกระเด็นใส่อยู่ตลอดเวลา

ด้าน นางจรรยวรรธน์ ลิขิตพัฒนะกุล ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า อยากจะวอนขอให้ทาง ทม.หนองปรือ เร่งเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้าน เพราะทุกคนต้องทนใช้ชีวิตอย่างลำบากแบบนี้มานานกว่า 2 เดือนแล้ว รถไม่สามารถจอดในบ้านได้ ต้องนำมาจอดไว้ริมถนน กลัวกันว่าจะถูกขโมยเข้าสักวัน เบื้องต้นอยากให้เจ้าหน้าที่ลงมาดูดน้ำที่ท่วมขังออกไปก่อน แล้วปรับสภาพปากซอยให้ประชาชนสามารถใช้สัญจรเข้า-ออกได้ตามปกติต่อไป