ผู้รับจ้างโรงการศึกษารถไฟฟ้ารางเบายืนยันผลการศึกษาใกล้สมบูรณ์ เตรียมส่งแผนแม่บทเมืองพัทยา
นายสิรภพ สุวรรณเกรส์ ผู้ประสานงานโครงการศึกษาและว่างแผนแม่บทการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้ารางเบาเมืองพัทยาเปิดเผยว่าจากนโยบายของคณะกรรมการ EEC ที่มีแผนในการพัฒนา 3 พื้นที่หลักได้แก่ ระยอง ฉะเชิงเทรา และชลบุรี โดยตั้งเป้าหมายในการพัฒนาหลายด้าน อาทิ รถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และระบบโลจิสติกส์ รวมทั้งการผลักดันให้เมืองพัทยาเป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก จึงต้องมีการวางแผนขับเคลื่อนการพัฒนาให้สอดคล้องกับแผนของนโยบายหลักของ EEC โดยเฉพาะระบบโครงข่ายด้านขนส่งสาธารณะในเมืองที่เชื่อมต่อกับระบบหลัก จึงได้กำหนดให้มีการศึกษาการจัดทำระบบขนส่งสาธารณะแบบรถไฟฟ้าในเมืองพัทยาขึ้น ซึ่งจากการศึกษาได้กำหนดรูปแบบของรถไฟฟ้าไว้ 3 ประเภท ได้แก่ แบบบนพื้นถนนหรือ Tram แบบยกระดับหรือ BTS หรือ Monorail และแบบใต้ดินหรืออุโมงค์ โดยต้องมีวิเคราะห์ปัจจัยหลักทางด้านกายภาพ สภาพถนนเดิม เส้นทาง และการเวนคืนที่ดิน รวมทั้งผลกระทบสิ่งแวดล้อมและงบประมาณการลงทุน โดยจากผลการศึกษาและรับฟังความคิดเห็นที่ผ่านมาและการประชุมย่อยพบว่า โครงสร้างรถไฟฟ้าแบบคร่อมรางยกระดับ หรือระบบ Monorial นั้นเป็นโครงสร้างที่เหมาะสมกับพื้นที่เมืองพัทยามากที่สุด จึงแร่งดำเนินการออกแบบและวางแผนในเรื่องของเส้นทาง สถานีรับส่ง สถานีจอด และศูนย์ซ่อม โดยเน้นการพิจารณาในเรื่องความเหมาะสมของเส้น ทาง ผลกระทบด้านการเดินทาง และทัศนียภาพ รวมถึงการเวนคืน ซึ่งผลการเสนอแนะจาก 4 เส้นทางการเดินรถ เสียงส่วนใหญ่สนับสนุนให้ใช้สีเขียวในระยะทางรวม 8.3 กม.และอีก 1.8 กม.เพื่อมุ่งสู่ท่าเรือแหลมบาลีฮาย จาก 13 สถานีจอด โดยจะวิ่งตามเส้นทางจากสถานีรถไฟพัทยาที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าความเร็วสูง มาตามถนนสายมอร์เตอร์เวย์ เข้าถนนพัทยาเหนือไปถึงวงเวียนปลาโลมา ก่อนจะเลี้ยวเข้าถนนพัทยาสายสอง ไปจนถึงแยกทัพพระยาและมุ่งตรงสู่ท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย ซึ่งมีการกำหนดอัตราค่าโดยสารแรก 16 บาท และ กม.ต่อไปอีก กม.ละ 2.80 บาท แต่ไม่เกิน 45 บาทตลอดเส้นทาง
ทั้งนี้แผนการดำเนินงานจะแบ่งระยะเวลาออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะสั้นระหว่างปี 2563-2564 จะกำหนดเส้นทางเดินรถที่ครอบคลุม ขณะที่ระยะกลางช่วงที่ 1 ระหว่างปี 2565-2569 จะดำเนินการพัฒนารถ ไฟฟ้าสายสีเขียว และเส้นทางสายสีเหลือง ซึ่งเป็นระบบรถไฟรางคู่สายชลบุรี-สัตหีบ ขณะช่วงที่ 2 ระหว่างปี 2570-2574 จะพัฒนารถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่วิ่งจากพื้นที่เทศบาลเมืองหนองปรือ เข้าสู่ถนนพัทยาใต้มุ่งหน้าสู่สถานีพักรถบริเวณโรงเรียนเมืองพัทยา 8 ซึ่งจะมีการจัดทำเป็น Station หรือจุดเชื่อมโยงระหว่างกัน ส่วนแผนระยะยาวระหว่างปี 2575-2579 จะพัฒนารถไฟฟ้าสายสีแดง ที่วิ่งจากซอยชัยพฤกษ์ 2 เข้าสู่ถนนจอมเทียนสายสอง ถนนพัทยาสาย 2 และวงเวียนปลาโลมา
สำหรับรถไฟฟ้าระบบ “โมโนเรล” จะมีลักษณะของการจัดทำเป็น 2 รางวิ่งสวนกัน บนสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กที่ยกสูงกว่าระดับถนนเดิมประมาณ 18 เมตร ซึ่งการก่อสร้างจะเน้นใช้พื้นที่เกาะกลางถนนเป็นหลัก หรือแนวถนนที่มีผลกระทบน้อยเพราะจะมีเพียงพื้นที่ก่อสร้างตอม่อหรือ Pier ที่กว้างเพียง 1.8 เมตร เท่านั้น โดยโครงการนี้จะมีการเวนคืนไม่มากนัก แต่จะใช้งบประมาณลงทุนประมาณ 20,805 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงการจัดทำอาคารจอดและจรหรือ TOD ในพื้นที่กว่า 40 ไร่ที่พรั่งพร้อมไปด้วย ช้อปปิ้งมอลล์ โรงแรม คอนโดมิเนียม และสกายพาร์ค ในพื้นที่กว่า 3.8 แสน ตร.ม.อีก 8.7 พันล้านบาท ขณะที่แนวทางการลงทุนจะได้มีการนำเสนอทั้งในรูปแบบของ PSC หรือ PPP ในลักษณะการร่วมทุนกับภาคเอกชนเพื่อพิจารณา โดยคาดว่าจะเสนอผลการศึกษาต่อเมืองพัทยาและ ครม.ได้ในเร็ววันนี้
นายสิรภพ กล่าวต่อไปว่าสำหรับกรณีที่มีกระแสว่าอาจมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่การสร้างสถานีจอดรถไฟ ฟ้าความเร็วสูงพัทยาไปยังพื้นที่ชากแง้วนั้น อาจทำให้ระบบการขนส่งออกแบบไว้ไม่เชื่อมโยงกันนั้น กรณีนี้ยังไม่มีความชัดเจนจึงยังคงเสนอแผนในการใช้พื้นที่เดิมตาม TOR ที่กำหนดไว้ ส่วนอนาคตที่จะมีการปรับเปลี่ยนไปยังพื้นที่ในเขตตำบลห้วยใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของผู้รับจ้างซึ่งมีที่ดินว่างเปล่าจำนวนนับร้อยไร่ หรือจะมาใช้พื้นที่บริเวณโรงบำบัดน้ำเสียเมืองพัทยา ซึ่งมีพื้นที่จัดสรรรองรับไว้ประมาณ 60 ไร่ คงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันต่อ ไปอีกครั้ง.