กรมเจ้าท่าขานรับนโยบายบูมท่องเที่ยวเรือสำราญ เล็งพัฒนาท่าเรือแหลมบาลีฮายเป็น Cruise Terminal
ตามที่รัฐบาลได้ดำเนินการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืนในรูปแผนพัฒนาพัฒนาอุตสาหกรรมเรือสำราญแบบครบวงจร ที่ระบุให้การท่องเที่ยวเรือสำราญเป็นหนึ่งในวาระแห่งชาติ Road Map 10 ปี แผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเรือสำราญ พ.ศ. 2561-2570 ที่ได้ตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางเรือสำราญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2570
ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีมอบหมายให้กรมเจ้าท่า ดูแลกฎระเบียบปฏิบัติการเข้า-ออกของเรือสำราญ กรมเจ้าท่าจึงเร่งพัฒนาท่าเรือสำราญหลักในไทย ได้แก่ ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือกรุงเทพฯ ท่าเรือภูเก็ต และท่าเรือสมุย ให้เรือสำราญขนาดใหญ่สามารถเข้าเทียบท่าได้อย่างสะดวกมากขึ้น
มีรายงานในส่วนของท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ได้วางแนวทางด้วยการปรับปรุงท่าเรือมีอยู่ให้เป็นท่าเรือหลัก (Home Port) และพัฒนาท่าเรือท่องเที่ยวเมืองพัทยา บริเวณแหลมบาลีฮาย ซึ่งเป็นสถานที่ลงเรือท่องเที่ยวข้ามฝั่งไปยังเกาะล้านให้เป็นท่าเรือสำราญหลัก เนื่องด้วยท่าเรือที่แหลมบาลีฮาย เป็นทำเลที่มีความเหมาะสม ในการจัดทำท่าเทียบเรือ Cruise Terminal เพราะเรือสามารถมาจอดหลบลม และเข้ามาทอดสมอที่อ่าวพัทยาได้
ทั้งนี้ ทำให้สามารถขนถ่ายนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่ง แล้วนั่งรถบัสไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ได้เลย เมืองพัทยามีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว เชื่อว่าจะสามารถทำการจัดโปรแกรมการท่องเที่ยวของกลุ่มเรือสำราญขนาดใหญ่ได้ง่าย ทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวเรือสำราญ ซึ่งเป็นกลุ่มท่องเที่ยวคุณภาพ กระเป๋าหนัก มาท่องเที่ยวยังเมืองพัทยาได้โดยง่ายและสะดวกมากขึ้นนั้น
ด้าน สมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปฏิบัติการ ได้เปิดเผยความคืบหน้าเพิ่มเติมของโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมบาลีฮาย ให้เป็นท่าเทียบเรือ Cruise Terminal ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการจัดซื้อจัดจ้างหาผู้มารับเหมาดำเนินการ ทั้งนี้โดยระเบียบจะทำการพิจารณาคัดเลือกจากข้อเสนอทางเทคนิคก่อน แต่พบว่ามีผู้มายื่นเพียงแค่รายเดียว ซึ่งเราต้องการเปิดโอกาสให้รายอื่น ๆ มายื่นเพื่อความหลากหลายในการพิจารณา จึงได้ยกเลิกครั้งนี้ แล้วให้ดำเนินการใหม่ แต่หากครั้งหน้าพบว่ามีผู้ยื่นรายเดิมเพียงเดียวก็ต้องพิจารณาจ้างเลย เพราะถือว่าผ่านเรื่องเทคนิคแล้ว