ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์และเด็กถูกล่วงละเมิด หวั่นพิษโควิด-19 ทำเด็กหลุดจากระบบการศึกษา

นายพลิศร โนจา (ครูจา) ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์และเด็กถูกล่วงละเมิด (ศตคด.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์และเด็กถูกล่วงละเมิดเป็นอย่างมาก โดยฌพาะเรื่องของอาหารการกินอยู่ เนื่องจากคนที่จะเดินทางเข้ามาบริจาคและสนับสนุนภายในศูนย์ไม่สามารถเข้ามาได้ เนื่องจากมีการปิดศูนย์ตามนโยบายรัฐบาล เป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อเจ้าไวรัสโควิค 19 ส่วนในเรื่องของเด็กนั้นจะถูกกักตัวอยู่ที่ศูนย์ทั้งหมดไม่ให้ออกไปด้านนอกพร้อมจัดกิจกรรมเสริมต่างๆให้กับเด็ก ๆ โดยเฉพาะเรื่องของการอบรมเกี่ยวกับการป้องกันตัวเองจากเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกทั้งจะเน้นให้เด็ก ๆที่อยู่ศูนย์ฯสวมใส่หน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อย ๆ และการเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งจะมีการปฏิบัติอย่างเป็นประจำ

สำหรับผลกระทบเรื่องอาหารนั้นมีการหาแนวทางแก้ไข ด้วยการปลูกพืชผักสวนครัวเอาไว้กินเอง เพื่อให้เด็กช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งนี้หากผู้มีจิตศรัทธาที่จะมาบริจาคสิ่งของ ของใช้จำเป็น ข้าวสาร อาหารแห้ง เสื้อผ้ามือสอง และเงิน ก็สามารถจะมาบริจาคได้ ที่ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์และเด็กถูกล่วงละเมิด ซึ่งตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 7 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี แม้จะมีการปิดศูนย์ฯก็สามรถเรียกเจ้าหน้าที่ของศูนย์ได้

ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์และเด็กถูกล่วงละเมิด กล่าวต่ออีกว่า สำหรับสุขภาพเด็ก ๆในขณะนี้ยังมีสุขภาพดี ปลอดภัยแข็งแรง แต่หลังนี้ในช่วงเปิดเทอมก็หวั่นจะไม่มีเงินไปใช้จ่ายให้กับเด็ก ๆที่อยู่ภายในศูนย์ทั้ง 42 คน ในการไปโรงเรียน เด็กที่อยู่ภายในศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์และเด็กถูกล่วงละเมิด เป็นกลุ่มเด็กที่ไม่สามารถจะส่งต่อไปที่ไหนได้ ด้วยเป็นกลุ่มเด็กผู้เสียหายที่จะต้องไปขึ้นศาล โดยเป็นเด็กที่ถูกกระทำในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งถูกล่วงละเมิดทางเพศ กระทำชำเรา และถูกบังคับให้ขอทาน สำหรับศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์และเด็กถูกล่วงละเมิดแห่งนี้ดำเนินการตั้งแต่ปี 2551 รวม 13 ปี ปัจจุบันได้ดูแลเด็กใน 8 จังหวัดภาคตะวันออก มีเด็กที่อยู่ในความดูแลทั้งหมด 42 คน เจ้าหน้าที่ 4 คน เด็กที่มาอยู่ที่นี่ 80% เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศ และเป็นเด็กเร่ร่อนมาก่อน