“ผบช.ภาค2″ จี้ตำรวจล่าคนร้ายคดีหนีหมายจับ! ล็อก ” เบนซ์ ท่าทราย” คารัง ลั่น!ตะวันออกต้องไม่มีที่ให้โจรยืน
ปฏิบัติการปิดล้อมรังโจร รวบตัว “เบนซ์ ท่าทราย” มาเฟียยาเสพติดเบอร์ต้นๆ ระดับหัวจ่ายแห่งภาคตะวันออก พร้อมยึดอาวุธปืนหลายกระบอก เครื่องกระสุนปืน ยาบ้า ยาไอซ์ และยาเสพติด “แฮปปี้ วอเตอร์” กับยึดอุปกรณ์สำหรับบดและบรรจุยาเสพติด อีกหลายรายการ โดยแผนทลายคลังอาวุธและยาเสพติดนี้ อยู่ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ภาสกร ไพรจิตต์ ผกก.สืบสวน ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.ท.เศรษฐภุชงค์ มีกุล รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.ท.สุวนัย พิทักษ์ รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.ท.พัลลภ หริ่งรอด รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.ชลบุรี สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี นำโดย พ.ต.ท.สุชาติ จินดามัย สารวัตรสืบสวนฯและ ร.ต.อ. อนุพงศ์ ดอกไม้ รองสารวัตรสืบสวนฯ นำกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำโดย พ.ต.ท.ภราดร สุวรรณรัตน์ รอง ผกก.สส.บก.น.5 ด.ต.มงคล สิทธิขจรสกุล,จ.ส.ต.วิศรุต ประจันตะเสน ผบ.หมู่ กก.สส.บก.น.5 พร้อมด้วยชุดสืบฯ สมทบกับเจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค2 ภายใต้การอำนวยการของ น.ส.พรทิพย์ แจ่มพงษ์ ผอ.ปปส.ภาค2 นำโดย นายสุรเดช ละเต๊ซัน นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ นายเชาวลิต ชูเลื่อน นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ นายดวงจันทร์ สืบเชื้อ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ และนายปทาน ช่วยเพชร นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ เข้าจับกุมตัว นายธนวัฒน์ ดู่คำ อายุ 42 ปี หรือฉายาที่รู้จักกันดีในวงการค้ายาเสพติดว่า “เบนซ์ ท่าทราย ” ภูมิลำเนา ต.มีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร และ น.ส.ปนัดดา หรือ “จอย” สุขวัฒนา อายุ 27 ปี ภูมิลำเนา ต.นาหนัง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย
ในการจับกุมครั้งนี้ สามารถยึดของกลาง ประกอบด้วย อาวุธปืนลูกซองกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 12 ยี่ห้อ “เดย์ยา” หมายเลขประจำปืน TD0953 หมายเลขทะเบียน กท 5951184 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนยาวชนิดอัดลม พร้อมติดกล้องเล็ง ไม่มีทะเบียน จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนยาวชนิดอัดลม ไม่มีทะเบียน จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ กล๊อค 30 ขนาด.45 หมายเลขทะเบียน กท5287526 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ “กล๊อค 17” ขนาด 9 มม. หมายเลขทะเบียน กท 56219078 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ “บาเร็ตต้า” รุ่น 92 FS ขนาด 9 มม. หมายเลขทะเบียน กท 3717414 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ “ทารัส” รุ่น PT 845 ขนาด 9 มม. หมายเลขทะเบียน กท 53114558 จำนวน 1 กระบอก พร้อม กระสุนปืน ขนาด .45 จำนวน 122 นัด ,กระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 35 นัด ,กระสุนปืน ขนาด 9 จำนวน 61 นัด แม็กกาซีน ขนาด 9 มม. จำนวน 6 แม็ก,แม็กกาซีน ขนาด 11 มม. จำนวน 2 แม็ก ,แม็กกาซีน ปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 1 แม็ก
ซองปืนพกในแบบพลาสติก ขนาด 9 มม. สีดำ จำนวน 2 ซอง,ซองปืนพกในแบบหนัง ขนาด 11 มม. สีดำ จำนวน 1 ซอง,ซองแม็กกาซีน ขนาด 1 มม. สีเขียว จำนวน 1 ซอง ,เสื้อเกราะกันกระสุน ชนิดเกราะอ่อน สีดำ จำนวน 1 ตัว,กล่องปืนพลาสติก สีดำ ยี่ห้อ “กล๊อค” จำนวน 1 กล่อง,กล่องปืนพลาสติก สีน้ำเงิน ยี่ห้อ “โคลท์” จำนวน 1 กล่อง
พร้อมกันนี้ ยังยึด ยาบ้าชนิดเม็ดกลมแบนด้านหนึ่งเรียบอีกด้านหนึ่งปรากฏตัวอักษรภาษาอังกฤษ wy เม็ดสีแดง จำนวน 6 เม็ด สีส้ม จำนวน 2 เม็ด สีเขียว จำนวน 2 เม็ด บรรจุอยู่ในช่องพลาสติดสีขาวใสชนิด เปิด-ปิด ด้านบน รวมจำนวน 10 เม็ด ยาไอซ์ ชนิดเกล็ดสีขาวขุ่น บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส ชนิดกดเปิด-ปิดด้านบน ขนาด 7×9 ซม. 1 ถุง น้ำหนักชั่งรวมถุง 1.72 กรัม และพบอีก 2 ถุง น้ำหนักชั่งรวมถุง 6.00 กรัม วัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 2 เคตามีน หรือยาเค ชนิดเกล็ดสีขาวขุ่น บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส 1 ถุง น้ำหนัก 88.1 กรัม และพบเพิ่มอีก 2 ถุง น้ำหนัก 15.5 กรัม วัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่2 ที่มีชื่อเรียกว่า “คลับดรักซ์” หรือ “แฮปปี้ วอเตอร์” จำนวน 6 ซอง โดยแยกซองที่ 1-3 น้ำหนัก 18.2 กรัม,ซองที่ 4-5 น้ำหนัก 17.8 กรัมและซองที่ 6 น้ำหนัก 10.5 กรัม รวมน้ำหนัก 100.7 กรัม
นอกจากนี้ ยังตรวจยึดเครื่องบดผสมแบบสแตนเลส ยี่ห้อ SIAMWEALTH รุ่น WF-40B ขนาด 2,000 กรัม จำนวน 1 เครื่อง เครื่องปั่น ยี่ห้อ Eleetrolux สีดำ จำนวน 1 เครื่อง เครื่องซีลถุงสูญญากาศแบบเหยียบ ยี่ห้อ Brother รุ่น PES-350 จำนวน 1 เครื่อง เครื่องซีลถุงพลาสติก สีขาวเขียว ยี่ห้อ PES จำนวน 1 เครื่อง เครื่องซีลถุงพลาสติก ยี่ห้อ NEO รุ่น NEO-9950Y สีเทา-ดำ จำนวน 1 เครื่อง,เครื่องซีลถุงพลาสติก ยี่ห้อ MAKE TIME สีม่วง จำนวน 1 เครื่อง เครื่องซีลฝากดปิดแบบมือกด สำแดง จำนวน 1 เครื่อง ขวดแก้ว จำนวน 2 ถุง รวม 200 ขวด ,ฝาขวดแก้ว สีเหลือง จำนวน 200 ชิ้น,ถุงพลาสติก สีดำ จำนวน 213 ถุง,ถุงพลาสติก สีดำ ติดสติ๊กเกอร์ ด้านข้าง จำนวน 164 ถุง ,สติ๊กเกอร์ จำนวน 257 แผ่น,ของเหลวชนิดใส บรรจุในขวดพลาสติก จำนวน 5 ขวด,ของเหลวสีม่วง บรรจุในขวดพลาสติก จำนวน 1 ขวด และเครื่องชั่งน้ำหนัก จำนวน 3 เครื่อง
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันจำหน่ายเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันขายโดยมีไว้เพื่อขายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 2 (เคตามีหรือยาเค)โดยผิดกฎหมาย ร่วมกันครอบครองยุทธภัณฑ์(เสื้อเกราะ)โดยผิดกฎหมายและเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมาย” ควบคุมผู้ต้องหาส่งที่ สภ.เมืองชลบุรี เพื่อดำเนินการต่อไป
สำหรับปฏิบัติการรวบพ่อค้ายาเสพติดตัวเอ้ “เบนซ์ ท่าทราย”ในครั้งนี้ พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค2 เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี นำกำลังพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.5 ตำรวจชุด ปพ.บก.น.5 ตำรวจชุด กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี ตำรวจชุด สส.สภ.เมืองชลบุรี เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภ.2 ร่วมกันปิดล้อมตรวจค้น ตามหมายค้น ศาลจังหวัดชลบุรี ที่ ค.22/2568 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 พร้อมทั้งจับกุมตัว นายธนวัฒน์ หรือ “เบนซ์ ท่าทราย” และ น.ส.ปนัดดา หรือ “จอย” สุขวัฒนา
สืบเนื่องจากการขยายผลยาเสพติดของ กก.สส.บก.น.5 บช.น. สืบทราบว่า นายธนวัฒน์ หรือ “เบนซ์ ท่าทราย” มีพฤติการณ์ผลิต และจำหน่ายยาเสพติด หลบหนีมากบดานอยู่บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใน ต.คลองตำหรุ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอหมายค้นบ้านดังกล่าว โดยตำรวจจาก กก.สส.บก.น.5 ได้บูรณาการกำลังร่วมกับตำรวจ ชุด ปพ.บก.น.5 กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี สภ.เมืองชลบุรี และ เจ้าหน้าที่ ปปส.ภ.2 ปิดล้อมตรวจค้น และจับกุมตัวนายธนวัฒน์ หรือ “เบนซ์ ท่าทราย” พร้อมของกลางจำนวนมาก
ภายหลังจับกุมจากการตรวจสอบประวัติของ นายธนวัฒน์ จากฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างละเอียด พบว่าเคยถูกจับกุมในข้อหาผลิต จำหน่ายยาเสพติดให้โทษฯเมื่อปี 2567 ในพื้นที่ สน.โชคชัย กทม.เคยถูกจับกุมในข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์ฯ เมื่อปี 2567 ในพื้นที่ สน.สุทธิสาร กทม.ตรวจพบเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี อยู่ระหว่างหลบหนีประกัน ในข้อหาครอบครองยาเสพติด เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสพยาเสพติดฯ เมื่อปี 2563
“พื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 ต้องไม่เป็นแหล่งกบดานของคนร้าย ไม่ว่าใครจะใช้พื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 เป็นแหล่งก่ออาชญากรรมไม่ได้ ผมได้สั่งการกำชับทุกจังหวัดในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค2 ให้เร่งสืบสวน จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ และปราบปรามการกระทำผิด ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอาวุธปืน และยาเสพติด ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด” พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2 กล่าว