เมืองพัทยา สั่งผู้รับเหมาเร่งแก้ไขถนนทางลงเขาพระตำหนักพัทยา หลังได้รับความเสียหายจากการเปิดใช้งานก่อนกำหนด
จากกรณี เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เมืองพัทยาได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ทางเพจสายตรงนายกเมืองพัทยา ว่าถนนทางลงเขาพระตำหนักพัทยา ได้รับความเสียหายหลังเพิ่งทำเสร็จได้ไม่นาน ซึ่งหลังรับแจ้งในวันเดียวกันเมืองพัทยาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักช่างตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาสาเหตุและแก้ไขสภาพถนนให้กลับมาดีดังเดิม
ต่อมาเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายไพรวัลย์ อารมณ์ชื่น รองประธานสภาเมืองพัทยา นายบุญเทียน จันทร์สุข ผู้อำนวยการสำนักการช่างเมืองพัทยา นายปรีชา ค้าขาย ประธานที่ปรึกษานายกเมือง สมาชิกสภาเมืองพัทยา เขต 4 และเจ้าหน้าที่สำนักช่าง ลงติดตามการแก้ไขถนนทางลงเขาพระตำหนักพัทยา ที่ได้รับการเสียหาย ภายใต้โครงการก่อสร้างปรับปรุงผิวจราจรแอลฟัลท์ติดคอนกรีต โดยมีตัวแทนเจ้าหน้าที่บริษัทซีเอสคอนสตรัคชั่นแอนด์ทรานสปอร์ต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้รับเหมาค่อยชี้แจงรายละเอียดสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น
นายมาโนช เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างปรับปรุงผิวจราจรแอลฟัลท์ติดคอนกรีต บริเวณเขา ส.ท.ร.5 ถึงแยกสาย 3 ระยะทาง 2,111 เมตร แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ช่วง โครงการดังกล่าวเป็นการดำเนินโอเวอร์เลย์ ผิวแอลฟัลท์ติดคอนกรีตขึ้นมาใหม่ บนถนนเขา ส.ท.ร.5 ถึงแยกสาย 3 เนื่องจากมีการใช้งานมาเป็นระยะเวลานานส่งผลให้ผิวถนนเกิดการทรุดโทรมและแตก จึงได้ของบประมาณจากสภาเมืองพัทยา วงเงิน 11,625,000 บาท มาก่อสร้างดังกล่าว โดยการดำเนินการปรับปรุงผิวจราจรแอลฟัลท์ติดคอนกรีตได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2567 แต่เมืองพัทยาไม่ได้ตรวจรับงาน เนื่องจากในช่วงที่มีฝนตกมาในพื้นที่ โดยจุดที่ถนนเกิดการสไลด์ตัว ในวันที่ปูแอลฟัลท์ ปกติต้องให้ระยะเวลาเซ็ทตัว 24-48 ชม. ถึงจะเปิดการจราจรได้ แต่วันเดียวกันนั้นการจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก ผู้รับจ้างจึงรีบเปิดก่อน 24 ชม. ทำให้รถขนาดใหญ่ที่เลี้ยวออกจากถนนอรรถจินดา บดยางที่ยังไม่เช็ทตัวเกิดความเสียหาย หรือตามหลักวิศวกรรม เรียกว่า อาการ flooding เป็นการฉีกขาดของชั้นผิวจราจรที่รับแรงบิดจากล้อรถบรรทุกหรือรถที่มีขนาดใหญ่ จะพบตามโค้งถนนหรือมุมเลี้ยวตามทางเข้าออก โดยเมืองพัทยาได้ทราบปัญหาที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักช่างแก้ไขเป็นการเร่งด่วน แต่ด้วยสภาพอากาศที่ไม่ดีและมีฝนตกลงมาในพื้นที่ จึงทำให้ไม่เหมาะกับการปูแอสฟัลท์ได้
นายมาโนช กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ได้สั่งการให้ผู้รับจ้างดำเนินการแก้ไขผิวแอลฟัลท์ติดคอนกรีตบริเวณถนนที่ได้รับการเสียหายในระยะทาง 30 เมตร โดยจะเทแอลฟัลท์ติดคอนกรีต 1 วัน และปิดการจราจรเพื่อให้ถนนเซ็ตตัวเป็นระยะเวลา 2 วัน จากการให้ผู้รับจ้างสำรวจความเสียหายในจุดอื่นๆ ของโครงการฯ ไม่พบจุดได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ทั้งนี้ตามสัญญาโครงการฯ ผู้รับจ้างจะต้องดูแลโครงการเป็นระยะเวลา 2 ปี.