อธิบดีอัยการภาค 2 พร้อมช่วยเหลือให้คำปรึกษาญาติเหยื่อ“เมาน์เทน บี” ในการฟ้องศาลแพ่งเรียกค่าเสียหาย-สินไหมทดแทน
ที่สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดชลบุรี ถนนสุขมวิท อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี (9 พ.ย.2566) กลุ่มผู้เสียหายจากกรณีที่ญาติถูกเพลิงไหม้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจาก “ผับเมาท์เทน บี” เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมาทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 29 ราย บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก กระทั่ง เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา เครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้พาญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ เข้าฟังสรุปคดีและแนวทางในการส่งฟ้องเพื่อยื่นคำร้องเรียกค่าสินไหมทดแทน ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วนได้แก่ 1.เสียชีวิต 2.บาดเจ็บสาหัส และ 3.บาดเจ็บ โดยศาลได้ออกหมายจับ นายพงศ์ศิริ ปั้นประ สงค์ หรือ เสี่ยบี อายุ 28 ปี เจ้าของกิจการ เมาน์เทน บี (Mountain B) ตามหมายเลขคดีที่ 355/2565 โดยแจ้งข้อกล่าวหาดังนี้ 1.ประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และ 2.ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตพร้อมกับพวกรวม 4 คน ด้วยสืบทราบความเชื่อมโยงว่า นายสมยศ เป็นเจ้าของที่แท้จริงของ “เมาน์เทน บี ผับ” แต่ใช้ชื่อลูกชายในการดำเนินกิจการ
ผู้เสียหายรายหนึ่งเปิดเผยว่าผู้เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการประสานจากทางสำนักงานอัยการภาค 2 เพื่อมาฟังการให้คำปรึกษาและแนวทางด้านกฎหมายที่จะส่งเรื่องฟ้องร้องต่อศาลให้อย่างเร่งด่วน ซึ่งแม้ว่าส่วนใหญ่ทางเจ้าของกิจการจะให้เงินญาติมาแล้วรวม 3 ครั้ง เป็นเงิน 150,000 บาท แต่ยังคงต้องมีรายละเอียดในการฟ้องร้องต่อศาลแพ่งตามกฎหมายในกรณียื่นคำร้องให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าสินไหมทด แทนตามมาตรา 44/1ตาม ป.วิอาญา
ด้านนายชัยชนะ พันธ์ภักดีดิสกุล อธิบดีอัยการภาค 2 เปิดเผยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินประชาชนเป็นอย่างมาก จึงได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 เรียกผู้เสียหายมาชี้แจงถึงข้อกฎหมายและแนวทางอื่นๆ ซึ่งทางสำนักงานอัยการจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือ พร้อมรวบรวมหลักฐานในการส่งเรื่องฟ้องร้องต่อศาล ที่จะมีวิธีการในการจัดเตรียมเอกสารที่แตกต่างกัน
ทั้งในส่วนของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ อย่างการร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก หรือการเรียกค่าสินไหมทดแทนที่เหมาะสม ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละราย คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานจะสามารถดำเนินการได้ภายในอาทิตย์นี้.