ชลบุรีให้การต้อนรับคณะอาคันตุกะ17 ปท.ร่วมงานเทศกาลศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านนานาชาติแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 21

ที่ ศูนย์ปฏิบัติธรรมมาบเอื้องเพื่อเศรษฐกิจพอเพียง และศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง ตำบลหนองบอนแดง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นางสาวประภัสรา ศรีทอง ภริยา ในฐานะนายกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี นายนริศ นิรามัยวงศ์ นายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายอำนาจ เจริญศรี ปลัดจังหวัดชลบุรีร่วมให้การต้อนรับ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย คณะอาคันตุกะ 17 ประเทศ ที่เข้าร่วมโครงการเทศกาลศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านนานาชาติแห่งประเทศไทย International Folklore Festival (Thailand IFF)

สำหรับคณะอาคันตุกะที่เข้าร่วมโครงการเทศกาลศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านนานาชาติแห่งประเทศไทย ได้แก่ มหาวิทยาลัย สถาบันทางการศึกษา โรงเรียน องค์กร นิติบุคคลทางศาสนา และองค์กรที่ยูเนสโกรับรองและที่น่าเชื่อถือทั่วโลก 36 ประเทศ โดยมีผู้แทนแต่ละประเทศ นำคณะศิลปินจำนวนประเทศละ 16 คน รวม 250 คน มาร่วมกระบวนการกระตุ้นเศรษฐกิจ การศึกษา สังคมวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ภายใต้เงื่อนไข “บวร” (บ้าน-วัด- โรงเรียน ราชการ) ตามแนวพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9

โครงการเทศกาลศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านนานาชาติแห่งประเทศไทย International Folklore Festival ในปีนี้ เป็นการจัดเทศกาลครั้งที่ 21 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 ตุลาคม-9 พฤศจิกายน 2565 ครอบคลุมพื้นที่ 18 วัดใน 8 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี สุรินทร์ นครราชสีมา สกลนคร ยโสธร บุรีรัมย์ มหาสารคาม และชลบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดสุดท้าย

ในโอกาสนี้ คณะผู้จัดงานยังได้ประกาศให้พระมหาธาตุเจดีย์ ศูนย์ปฏิบัติธรรมมาบเอื้องเพื่อเศรษฐกิจพอเพียง จังหวัดชลบุรี เป็นมรดกทางวัฒนธรรม โดยให้ อาคันตุกะจาก 5 ประเทศ เป็นผู้เซ็นรับรอง และมอบรางวัลให้กับ พระสังคม ธนปัญโญ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติธรรมมาบเอื้องเพื่อเศรษฐกิจพอเพียง จังหวัดชลบุรี พร้อมทั้งมอบโล่รางวัล “บุลคลแห่งสันติภาพโลก” และรางวัลไดมอนด์ ออฟ เอเชีย (Dimond of Asia) ให้กับ พระครูวิฑูรธรรมนิเทศ และพระสังคม ธนปัญโญ มอบโล่รางวัลเชิดชูเกียรติให้กับกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี อีกด้วย

ด้าน นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวต้อนรับคณะอาคันตุกะศิลปินนานาชาติ 17 ประเทศ พร้อมนำเสนอภาพรวมในปัจจุบันจังหวัดชลบุรี ว่าเป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจ มั่งคั่ง มั่นคง เติบโตอย่างต่อเนื่อง มีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด เป็นลำดับที่ 3 รองจากกรุงเทพมหานคร และจังหวัดระยอง และเป็นแหล่งที่น่าลงทุน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่รู้จักของนักลงทุนทั่วโลก ในฐานะพื้นที่ชั้นนำในการพัฒนาอุตสาหกรรมของอาเชียน มีโรงงานอุตสาหกรรม มากกว่า 4,000 โรงงาน การมีนักลงทุนทั่วโลกอยู่ในพื้นที่ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ จังหวัดชลบุรีเป็น 1ใน 3 ของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ร่วมกับจังหวัดระยองและจังหวัดฉะเชิงเทรา มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งทางถนน รถไฟ ท่าเรือ และนิคมอุตสาหกรรม อีกทั้ง ยังเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางน้ำของอาเซียน จังหวัดชลบุรีมีการพัฒนาในเรื่องของการเป็นเมืองแห่งการจัดประชุมและสัมมนา (MICE City) เป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) และเป็นเมืองกีฬา (Sport City)

สำหรับคนทั่วไปแล้ว จังหวัดชลบุรีเป็นที่รู้จัก ในฐานะเมืองตากอากาศชายทะเลที่ใกล้กรุงเทพฯ โดยเฉพาะหาดบางแสน และพัทยา ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาสัมผัสความสวยสดงดงามของชายทะเลตะวันออกอันมีมนต์เสน่ห์แห่งนี้ จังหวัดชลบุรียังมีประเพณี ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วโลก คือ ประเพณีวิ่งควาย ซึ่งได้นำมาจำลอง ให้ทุกท่านได้ถ่ายภาพในครั้งนี้ และหนึ่งในอาหาร ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดชลบุรี คือ ข้าวหลามหนองมน โดยได้นำมาให้ได้รับประทานเช่นกัน.