เหยื่อผับมรณะ “เมาเทนบี” ดับรายที่ 20 ยังรักษาตัวอีก 24 ราย ญาติสุดเศร้าสูญเสียผู้นำครอบครัว รอวัดใจเจ้าของเยียวยาเพิ่ม

จากกรณีโศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญ เพลิงไหม้ Mountain B หมู่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 20 ราย โดยเสียชีวิตที่เกิดเหตุ 13 ราย เสียชีวิตภายหลังที่โรงพยาบาลจำนวน 7 ราย โดยรายล่าสุดเป็นชาย วัย 50 ปี และยังรักษาตัวที่รพ.อีก 24 ราย

ต่อมา ที่ศาลาตั้งสวดพระอภิธรรมศพ วัดรังษีสุนทร กม.5 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นายธนารัฐ บวรสุวรรณ อายุ 52 ปี พี่ชายพร้อมครอบครัวและญาติ พี่น้อง ได้นำร่างของนายปพน บวรสุวรรณ อายุ 50 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ไฟไหม้ผับ Mountain B ก่อนจะทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่ ร.พ. ชลบุรี เมื่อเวลา 13.19 น.วันที่ 19 ส.ค. ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 20 เคลื่อนย้ายมาประกอบพิธีทางศาสนา ท่ามกลางความโศกเศร้าของ พ่อแม่ และ ญาติพี่น้อง ของผู้ตาย โดยจะมีการตั้งสวดพระอภิธรรม จำนวน 5 คืน

นายธนารัฐ บวรสุวรรณ อายุ 52 ปี พี่ชาย ผู้ตายกล่าวว่า ขอบคุณกำลังใจหลายๆ ทาง ที่ได้ขอรับบริจาคโลหิต ซึ่งมีทั้งเพื่อนๆ ที่อยู่ทางภาคใต้ และต่างจังหวัดส่งมาจำนวนมาก ถึงน้องจะไม่ได้รับ แต่ก็สามารถนำช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหลายอื่น เพื่อเป็นบุญกุศล ต่อไป โดยจะตั้งสวดพระอภิธรรม จำนวน 5 คืน และมีพิธีฌาปนกิจ ในวันพฤหัสบดีที่ 25 ส.ค.นี้ เวลา 16.00 น.

นายธนารัฐ กล่าวอีกว่าปกติน้องชายที่เสียชีวิต บ้านอยู่ที่อำเภอสัตหีบ และตัวทำงานอยู่ต่างจังหวัด พอดีวันนั้น เขากลับมาเพื่อจะมารับคุณแม่ ที่อำเภอสัตหีบ ไปส่งบ้านตน ที่ กทม. เขาจะมีหน้าที่รับส่ง โดยวันนั้นเขากลับมาถึงสัตหีบ ประมาณเที่ยงคืนกว่า จังหวะนั้นเพื่อนเขาได้โทรศัพท์มาหา และชักชวนให้ไปหา โดยเอารถจอดอยู่ริมถนน เพื่อเข้าไปหาเพื่อน แปปเดียว ทราบว่าได้เช็คบิลเสร็จเรียบร้อย กำลังจะเดินออกมา ก็เกิดเหตุ จังหวะที่เขาหนีออกมา มีรุ่นน้องที่ไปด้วยกันอยู่ข้างหน้า จึงได้เอาตัวบังเปลวไฟไว้ และเอาตัวคร่อมทับไว้ ทำให้มีแผลไฟไหม้บริเวณแผ่นหลัง ก่อนที่เขาจะทุบกระจกบริเวณประตูหน้าออกมา และมีเปลวไฟติดตามตัว ก่อนจะลงไปกลิ้งกับพื้นให้ไฟดับ

หลังจากนั้น น้องชายถูกส่งไปยัง รพ.สัตหีบ กม.10 ช่วงแรกน้องชายถูกไฟเผา มีแผลบริเวณแผ่นหลังและที่ก้นเยอะ ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าประมาณ 40% ของร่างกาย ก่อนจะประสานย้ายไปยัง รพ.ชลบุรี เพราะ มีแพทย์เฉพาะทาง จะรักษาได้ดีกว่า แต่น้องชายเป็นคนอ้วน แต่มีเรื่องของน้ำตาล ในร่างกาย แผลไม่ได้ลุกลามไปกว่านี้ แต่ว่ามีปัญหาภายใน ประกอบกับขนาดตัวของเขาที่ใหญ่และอ้วน มีปัญหาค่าไตสูง และเรื่องระบบขับถ่าย และสิ่งที่ทำให้เขาเสียชีวิต คือติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง ก่อนหัวใจจะหยุดเต้น แพทย์ก็พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ก่อนที่น้องชายจะเสียชีวิต

ส่วนเรื่องการช่วยเหลือเยียวยานั้น พี่ชายผู้ตายระบุว่าช่วงหลังเกิดเหตุ เจ้าของผับได้มอบเงินเบื้องต้นมาจำนวน 10,000 บาท ให้เป็นค่าน้ำมันในการไปดูแลผู้ป่วย และครั้งที่ 2 ได้มอบเงินมาเพิ่มเติมอีกจำนวน 20,000 บาท หลังจากที่น้องจะเสียบชีวิตประมาณ 1-2 วัน ร่วมเป็น 30,000 บาท หลังจากที่น้องชายเสียชีวิตทางตัวแทนได้ติดต่อเข้ามาเพื่อจะมอบเงินช่วยเหลือทำศพ 50,000 บาท เหมือนรายอื่นๆ

“ถ้าถามว่าพอใจมั้ย คงไม่พอใจแน่นอน เพราะน้องชายคือเสาหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว มีลูกชายคนโต อยู่มหาวิทยาลัย ปี 3 ส่วนคนเล็กลูกสาว อยู่ป.1 เอง ภรรยาก็ไม่ได้ทำงานเป็นแม่บ้าน ตอนนี้คงรอทำศพให้เสร็จเรียบร้อยก่อน และดูว่าทางเจ้าของร้านจะเยียวยายังไง” นายธนารัฐ กล่าวและว่าคงให้ทางกฎหมายดำเนินการไป ต้องดูว่าทางเจ้าของเขามี มนุษยธรรม คุณธรรม มากน้อยขนาดไหน เพราะว่าครอบครัวต้องสูญเสียผู้นำครอบครัว ไม่รู้ว่าครอบครัวจะอยู่กันยังไง.