ชลบุรีจัดประชาพิจารณ์แผนการบริหารจัดการขยะมูลฝอย Cluster ที่ 2 ใน 3 อำเภอ คาดเริ่มเป็นรูปธรรมปี 70

ที่วิทยาลัยเทคนิคพัทยา จ.ชลบุรี (9 มี.ค.2565) นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เป็นประธานในการปาฐกถาพิเศษเรื่องของปัญหาขยะมูลฝอย ระบบวิธีการบริหารจัดการ และแนวโน้มการจัดการแก้ไขปัญหาขยะแบบบูรณาการหรือ Cluster ที่ 2 ของพื้นที่จังหวัดชลบุรี ในการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเรื่องการทบทวนผลการศึกษาการบริหารจัดการขยะมูลฝอย( Cluster 2) โดยมีนายวุฒิศักดิ์ สิงหเดโช นายอำเภอบางละมุง คณะที่ปรึกษาในการวางแผนแม่บทจากมหาวิทยาลัยบูรพา รวมทั้งประชาชนในพื้นที่เมืองพัทยา เข้าร่วมฟังกว่า 300 คน

นายสนธยา กล่าวว่าจากการขยายตัวของจำนวนประชากรและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ส่งผลให้การอุปโภคบริโภคมีมากขึ้น มีของเสียของเหลือทิ้งจากบ้านเรือนและชุมชนที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน และในอนาคตจะมีแนวโน้มเกินขีดความสามารถในการรองรับของหลุมฝังกลบที่มีอยู่ อีกทั้งในอนาคตเมื่อนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวันออก (EEC ) ได้ดำเนินอย่างเต็มรูปแบบ จะมีการขยายตัวของเมืองและภาคอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น อันจะส่งผลต่อปริมาณขยะโดยตรง

การดำเนินการจัดเก็บและกำจัดขยะมูลฝอยเป็นบริการสาธารณะที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีหน้าที่ให้บริการประชาชนตาม พ.ร.บ. กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจ พ.ศ.2542 ซึ่งที่ผ่านมาเมืองพัทยาได้ปรับเปลี่ยนและบริหารจัดการจนเข้าสู่ระบบจากที่เคยมีสภาพปัญหาสถานีขนถ่ายบริเวณซอยสุขุมวิท 3 ต.หนองปลาไหล ที่ขาดสุขลักษณะ สร้างปัญหาด้านกลิ่น และน้ำเสีย จากปริมาณขยะที่สูงกว่า 500 ตัน/วันในปี 2560 กระทั่งได้เข้ามาแก้ไข ปรับเปลี่ยนรูปแบบ และผู้รับเหมารายใหม่ที่มีศักยภาพเข้ามาดำเนินการ โดยมีการพักและขนถ่ายไปทิ้งยังพื้นที่ อ.แก่งคอย สระบุรี

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายที่สูง กระทรวงมหาดไทยจึงกำหนดให้มีการบูรณาการร่วมกันในการจัดการบริหารขยะมูลฝอย โดยแบ่งพื้นที่จังหวัดชลบุรีออกเป็น 5 Cluster ซึ่งอำเภอบางละมุง ถูกจัดอยู่ในพื้นที่ของ Cluster ที่ 2 ร่วมกับ อำเภอศรีราชา และอำเภอสัตหีบ ซึ่งตามแผนเดิมจะมีการขนถ่ายขยะจาก 3 อำเภอปริมาณ 1,590 ตัน/วัน ไปกำจัดที่บ่อขยะ ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แต่ด้วยเกิดปัญหาการคัดค้านกับชาวบ้าน จึงได้ศึกษาและวางแผนในการบริหารจัดการใหม่ โดยจะมีการพักและขนถ่ายขยะไปทิ้งในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อเผาทำลายกว่า 97 % และผลิตไฟฟ้าที่จะได้ปริมาณถึง 29.7 เมกะวัตต์

นายสนธยา กล่าวต่อไปว่าทั้ง 3 อำเภอจาก 22 เทศบาล รวมทั้งเมืองพัทยาจะมีการจัดตั้งศูนย์พักเพื่อรอการขนถ่ายขยะไปทิ้งยังนิคมอุตสาหกรรม โดยไม่มีการขนมากองขยะเพื่อสร้างปัญหามลพิษเช่นในอดีต ซึ่งในการศึกษาแนวทางใหม่นี้ จะมีเมืองพัทยาเป็นเจ้าภาพในการศึกษาความเหมาะสม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการวางแผนดำเนินโครงการ ความคุ้มค่าการลงทุน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะมีการจัดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนใน 3 พื้นที่หลักเพื่อใช้ประกอบข้อมูล ที่จะทำให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างถูกต้อง โดยจากนี้จะมีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นในพื้นที่อำเภอสัตหีบอีกครั้ง ก่อนจะนำผลสรุปและรวบรวมเสนอต่อเมืองพัทยา และส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดดำเนินการ โดยคาดว่าจะมีผลเป็นรูปธรรมในช่วงปี 2570 นี้.