“นายกโก้”ชี้แจงข่าวทต.บางละมุงไม่ดูแลคนขายหวยรัฐติดโควิดทำผวาทั่วซอย ไม่เป็นความจริง ยันช่วยเหลืออย่างดี

จากกรณีมีข่าวแม่ค้าล็อตเตอรี่ในพื้นที่ตำบลบางละมุง และอาศัยอยู่ในพื้นที่ซอยบางละมุง 21/1 ม.5 ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากการขายล็อตเตอรี่ จนทำให้ภายในซอยดังกล่าว มีผู้ถูกกักตัวหลายคน และไร้หน่วยงานท้องถิ่นเข้าไปดูแล ชาวบ้านต้องออกไปรับสิ่งของที่ทางผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ไปขอจากวัดประชุมคงคา เพื่อนำมาประทังชีวิตเอง ซึ่งประเด็นดังกล่าวหลังจากที่ได้มีการแพร่กระจายข่าวออกไปหลากหลายช่องทาง คณะผู้บริหารเทศบาลตำบลบางละมุง นำโดย ว่าที่ร้อยตรี จเรวัฒน์ ชินวัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลบางละมุง ได้ออกมาแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

ว่าที่ร้อยตรี จเรวัฒน์ ชินวัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลบางละมุง เปิดเผยว่ากรณีดังกล่าว ที่เป็นข่าวกับสิ่งที่เกิดขึ้นสวนทางกัน เทศบาลตำบลบางละมุงรับทราบจากญาติผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 26 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ก็ได้เร่งประสานความร่วมมือกับสาธารณสุขอำเภอบางละมุงเป็นการด่วน จากนั้นในวันที่ 27 มิถุนายน ผู้บริหารเทศบาลร่วมกันระดมทุนส่วนตัว นำข้าวและน้ำดื่มจำนวน 30 ชุด ไปมอบให้กับกลุ่มเสี่ยงที่ต้องกักตัว 14 วัน ซึ่งเทศบาลเข้าใจและรับทราบปัญหาของประชาชนมาโดยตลอด และเข้าใจว่ากลุ่มเสี่ยงทั้งหมดนี้ไม่ได้มีการเตรียมตัวในการกักตัว เพราฉะนั้นเรื่องของปากท้องจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ผู้บริหารได้ประสานมอบข้าวกล่องที่พร้อมทานให้กัประชาชนกลุ่มเสี่ยงอย่างเต็มที่ ตั้งแต่วันที่ทราบเรื่อง

จากนั้นในวันที่ 28 มิถุนายน กองสาธารณสุขเทศบาลตำบลบางละมุง เข้าไปในพื้นที่จัดการล้างตลาดและแจกน้ำยาฆ่าเชื้อให้ประชาชนนำไปชุบ เช็ด ถู สร้างความปลอดภัยแก่ประชาชนในพื้นที่และละแวกใกล้เคียง พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อและให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องแก่ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ส่วนความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องนั้น เทศบาลช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ประสบวิกฤตโควิด-19 เป็นข้าวสารอาหารแห้ง จำนวน 8 ชุด เพียงพอกับการต้องกักตัว 14 วันแน่นอน

ส่วนข่าวที่ออกไปนั้น น่าจะเป็นเรื่องความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกันมากกว่า จึงอยากออกมาชี้แจงในเรื่องของการดำเนินการช่วยเหลือที่ทางเทศบาลได้ดำเนินการเป็นการเร่งด่วน

ด้านนายมาโนชย์ ทรงโยธิน กำนันตำบลบางละมุง เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่ทราบข่าวก็ได้ประสานความร่วมมือและความช่วยเหลือระหว่างครอบครัวผู้ติดเชื้อ ร่วมถึงผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในซอยดังกล่าวมาโดยตลอด เทศบาลก็ได้ให้ความช่วยเหลือตั้งแต่วันแรกเป็นอย่างดี

นอกจากนี้เรือตรีหญิง ณภัทรจิรา มีลาภ หัวหน้าฝ่ายบริหารงานสาธารณสุข กองสาธารณสุขเทศบาลตำบลบางละมุง ได้ออกมาชี้แจงเรื่องของการดูแลด้านความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง หลังทราบเรื่องได้ให้เจ้าหน้าที่ออกประชาสัมพันธ์การป้องกันตัว และขอความร่วมมือผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในการกักตัว 14 วัน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ กองสาธารณสุขยังนำหน้ากากอนามัยและน้ำยาฆ่าเชื้อ ชุบ เช็ด ถู ไปแจก พร้อมเอกสารคำแนะนำสำหรับประชาชนในการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคอีกด้วย

ส่วนกรณีที่มีการพูดถึงการพ่นยาฆ่าเชื้อนั้น ตามจริงแล้ว กระทรวงสาธารณสุขได้ขอความร่วมมือไม่ให้ท้องถิ่นพ่นยาฆ่าเชื้อ เพราะอาจเกิดการฟุ้งกระจายของเชื้อได้ การนำน้ำยาฆ่าเชื้อไปชุบ เช็ด ทำความสะอาดพื้นที่ต่างๆ ภายในบ้านถือว่าเป็นการฆ่าเชื้อที่ดีที่สุด ซึ่งได้สร้างความเข้าใจกับประชาชนในกลุ่มดังกล่าวไปแล้ว

ส่วนแผนในการป้องกันการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กองสาธารณสุขดำเนินการอย่างเข้มข้นอยู่แล้ว อาทิ การให้ความรู้เรื่องของการระยะห่าง ความสำคัญของการล้างมือบ่อยๆ การใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีศูนย์อำนวยการแจ้งข่าวและร้องเรียนต่างๆ ที่เทศบาลสามารถประสานขอความช่วยเหลือกันได้ เทศบาลถือเป็นหน่วยงานท้องถิ่นที่มีภารกิจในการสนับสนุนงานของสาธารณสุขเท่านั้น ส่วนการรักษาอาการป่วย รวมถึงการนำผู้ป่วยมารักษาจะอยู่ในความรับผิดชอบของสาธารณสุขอำเภอ ซึ่งกองสาธารณสุขเทศบาลตำบลบางละมุงก็พร้อมเป็นหน่วยสนับสนุนงานทุกอย่าง อย่างเต็มความสามารถ สำหรับในพื้นที่ใกล้เคียงหากยังรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของเชื้อ จะให้ทางเทศบาลไปพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อสร้างความมั่นใจ เทศบาลก็จะดำเนินการให้อย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ระหว่างการแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีผู้ที่มี่ความเสี่ยงสูงที่พักอาศัยในซอยบางละมุง 21/1 โทรศัพท์เข้ามาพร้อมเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่ถูกกักตัวและพบผู้ป่วยในซอย เทศบาลไม่ได้ทอดทิ้ง และให้ความช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันแรก จนถึงปัจจุบัน มีการส่งอาหาร ข้าวกล่อง และเครื่องอุปโภคบริโภคตลอดเวลา

ด้านนายสมเกียรติ หอมขจร ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 เปิดใจว่าที่ให้ข่าวไปนั้นไม่ได้ติดใจเรื่องของการให้ความช่วยเหลือด้านอาหาร เพราะที่ผ่านมาทราบและลงพื้นที่กับผู้บริหารเทศบาลมาโดยตลอดในการส่งข้าวสาร อาหารแห้ง แก่ผู้กักตัว และผู้ป่วย แต่ที่อยากให้แก้ไขคือเรื่องของการสร้างความมั่นใจและอุ่นใจแก่ประชาชนในพื้นที่ เพราะประชาชนในพื้นที่มีความหวาดกลัวว่าจะเกิดการแพร่ระบาดของโรค ทั้งในซอยดังกล่าว และพื้นที่ใกล่เคียง อยากให้กองสาธารณสุขเข้ามาสร้างความมั่นใจ ให้กับประชาชนในพื้นที่ ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจาก 1 ราย เป็น 12 รายแล้ว ส่วนเรื่องของการที่ข่าวออกไปว่าทางเทศบาลไม่ได้ดูแลในเรื่องของอาหารการกิน และเสบียงต่างๆนั้น น่าจะเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันมากกว่า.