“สนธยา” ยัน Lock Down พัทยาเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือปรับแผนใหม่ เน้นพื้นที่กลุ่มเสี่ยงโซนไข่แดง

นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่าตามที่เมืองพัทยาได้กำหนดมาตรการ Lock Down Pattaya โดยการปิดเมืองสกัดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2563 ซึ่งหลังจากจัดทำจุดคัดกรอง 5 จุด ได้แก่ แยกกระทิงราย ซอยชัยพรวิถี ซอยพรประภานิมิต (สยามคัน ทรีคลับ) ซอยชัยพฤกษ์ และซอยแยกอัยการ สำนักงานเขต 2 หรือห้วยใหญ่ พบว่าจากการประ เมินสถานการณ์ มีประชาชนได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก แม้จะได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี ด้วยทุกส่วนก็อยากให้ปัญหาจบลงโดยเร็ว แต่เนื่องจากประชาชนบางส่วนไม่ได้มีเจต นาที่จะเดินทางเข้าสู่เมืองพัทยาชั้นใน เพียงแต่มีภารกิจในการเดินทางไปยังพื้นที่อื่นอย่างพื้นที่สัตหีบ หรือชล บรี หรือในเขตพื้นที่ของ 5 เทศบาลที่มีจุดเชื่อมต่อระหว่างกัน โดยผู้เดินทางสัญจรต้องมาผ่านจุดคัดกรองที่กำหนดไว้ทำให้การจราจรติดขัดเป็นทางยาว อีกทั้งยังมีปัญหาความไม่เข้าใจในเรื่องของการจัดทำใบรับรองเพื่อผ่านเข้าสู่เมืองพัทยาชั้นใน

กรณีนี้หลังลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์และตรวจสอบสภาพปัญหา เมื่อช่วงค่ำวันที่ 9 เม.ย. นายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง ได้เรียกประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อเมืองพัทยาเป็นการเร่งด่วน เพื่อหาบทสรุปและวางแผนในการจัดแนวทางการปฏิบัติงานใหม่ และวางแผนปรับ เปลี่ยนการทำงาน เพื่อให้เกิดความสะดวกและคำนึงถึงผลกระทบกับประชาชนให้น้อยที่สุด แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการยกเลิกมาตร การปิดเมืองพัทยา หรือ Lock Down อย่างเด็ดขาด เนื่องจากมองว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่เมืองพัทยายังมีปัญหาอยู่มาก โดยเฉพาะกลุ่มชาวต่างชาติที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ด้านในกว่า 2,800 คน เพียงแต่จะมีการปรับเปลี่ยนแผนการทำงานและการตั้งจุดคัดกรองใหม่เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันโรคอย่างจริงจัง

นายสนธยา กล่าวอีกว่า จากวันนี้จะสั่งการยกเลิก 5 จุดคัดกรองเดิมในฝั่งตะวันออก พร้อมรื้อแผงกั้นแบริเออร์ที่ปิดเส้นทางเข้าทั้งหมด โดยจะเปิดให้มีการจราจรตามปกติบนถนนเลียบทางรถไฟและถนนสุขุมวิททั้งฝั่งขาเข้าและขาออก เพื่อลดปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชน แต่จะมาตั้งจุดคัดกรองใหม่ก่อนเข้าเขตตัวเมืองชั้นในหรือที่เรียกกันว่าพื้นที่ “โซนไข่แดง” แทน ด้วยจากการรับรายงานพบว่าผู้ติดเชื้อจำนวน 33 รายนั้น มีจำนวนถึง 26 รายที่อยู่ในเขตเมืองพัทยาชั้นใน

นายสนธยา กล่าวต่อไปว่าจากผลสรุปของการหารือร่วมกันในหลายฝ่าย มีแนวทางที่จะปิดกั้นเพื่อจัดทำจุดคัดกรองในพื้นที่เมืองพัทยาชั้นในประกอบไปด้วย จุดคัดกรองวงเวียนปลาโลมา จุดคัดกรองปากทางพัทยาเหนือ บริเวณแยกปริญญาสาย 3 จุดคัดกรองถนนพัทยากลาง บริเวณแยกซอยอรุโณทัย จุดคัดกรองพัทยาใต้ บริเวณแยกซอยกอไผ่ และจุดคัดกรองจอมชายหาดจอมเทียน บริเวณถนนจอมเทียนสาย 2 ซึ่งแบ่งความรับผิดชอบทั้งในส่วนของเมืองพัทยา กระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง อาสาสมัคร จิตอาสา และเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก 5 สถานี โดยจะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพความเหมาะสมเพื่อวางแนวทาง การทำงานคัดกรองอย่างเข้มข้น ซึ่งคาดว่าจะเริ่มปรับและดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในวันอังคารที่ 14 เมษายน ที่จะถึงนี้ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการเป็นเวลาประมาณ 3 อาทิตย์หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพื้นที่ไข่แดงนั้น ปัจจุบันได้รับรายงานว่ามีบุคคลที่เป็นกลุ่มเสี่ยงหรือบุคคลที่เคยใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อแล้ว ซึ่งปัจจุบันมีรายชื่อทั้งหมดโดยจากนี้จะได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไป X-Ray ตรวจสอบและสแกนอย่างเข้มข้น โดยใช้เครื่องมือที่ได้รับการสนับสนุนจาก สสจ.คือ Lamp test จำนวน 2,000 ชุด ซึ่งถือการพื้นที่นำร่องที่แรกของประเทศ โดยอุปกรณ์นี้จะเป็นเครื่องมือในการตรวจสารคัดหลั่งจากผู้ต้องสงสัยที่จะสามารถรู้ผลว่าติดเชื้อหรือไม่ภายในระยะเวลาเพียง 45 นาทีเท่านั้น หากตรวจพบผู้ติดเชื้อก็จะนำตัวมากักกันเฝ้าระวังในพื้นที่ที่กำหนดคือโรงพยาบาลสนามหรือจัดส่งตัวให้แพทย์ทำการรักษาเป็นการเร่งด่วน ถือเป็นการป้องกันการแพร่กระจายขอเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเมืองพัทยาได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมและให้เกิดผลสูงสุด

ทั้งนี้ ช่วงนี้จะมีการประชาสัมพันธ์ชี้แจงทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือจากประชาชนในการดำเนินการตามมาตรการของรัฐอย่างเข้มข้น จึงขอให้ประชาชนทุกคนร่วมมือกันทำความเข้าใจในความตั้งใจที่จะสกัดกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ให้หมดไปจากเมืองพัทยา และขออภัยในความไม่สะดวกในทุกกรณีแต่สิ่งที่จำทำและดำเนินการนั้นก็เพื่อเมืองพัทยาและเพื่อคนพัทยาอย่างแท้จริง.