คณะกรรมการบริหารความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาโรคยางพาราฯ ติดตามการดำเนินงานบริหารจัดการโรคใบร่วงยางพารา จังหวัดยะลา

ยะลา (11 มิถุนายน 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอำนาจ ชูทอง รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย นายพนัสพล โกสิยาภรณ์ ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทยจังหวัดยะลา และหัวหน้าส่วนในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดยะลา ให้การต้อนรับ คณะกรรมการบริการความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาโรคยางพาราในพื้นที่ จ.ยะลา และปัญหาราคายางพารา สภาผู้แทนราษฎร โดยการนำของ นายอิมรอน เส็นหลีหมีน กรรมการฯ (ผู้แทนนายอับดุลอายี สาแม็ง ปรึกษาและกรรมการ) และ ดร.กฤษดา สังข์สิงห์ กรรมการฯ (ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยาง ผู้แทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย) พร้อมคณะ กว่า 20 คน ที่มาติดตามการดำเนินงานโครงการบริหารจัดการโรคใบร่วงชนิดใหม่ (ใบจุดกลม) ในพื้นที่ หมู่ที่ 7 บ้านสีคง ต.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา ซึ่งการยางแห่งประเทศไทยจังหวัดยะลา สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดยะลา สถานีพัฒนาที่ดินยะลา ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรยะลา สำนักงานเกษตรจังหวัดยะลา มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ได้ดำเนินการในการจัดทำแปลงสาธิตเพื่อหาแนวทางและวิธีการในการแก้ปัญหาโรคใบร่วงในยางพารา เพื่อเป็นต้นแบบในการขับเคลื่อนในการแก้ปัญหาโรคใบร่วงยางพาราในพื้นที่ต่างๆ ต่อไป

ในพื้นที่จังหวัดยะลามีการจัดทำแปลงสาธิตในการป้องกัน ควบคุมและกำจัดโรคใบร่วงยางพาราด้วยกันทั้งหมด 9 วิธีการดังนี้

1. การใช้สารไมคอไรซ่าและปุ๋ยชีวภาพละลายฟอสเฟต ดำเนินการโดย ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร กรมวิชาการเกษตร

2. การใช้เชื้อไตรโคเดอร์มา ร่วมกับปุ๋ยสูตร 30-5-18 ดำเนินการโดย สำนักงานเกษตรจังหวัดยะลา กรมส่งเสริมการเกษตร

3. การใช้สารชีวภัณฑ์ พด.14 ดำเนินการโดย สถานีพัฒนาที่ดินยะลา กรมพัฒนาที่ดิน

4. การใช้สารชีวภัณฑ์ มรย.1 ดำเนินการโดย มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา

5. การใช้น้ำหมักปลาหมอคางดำ ดำเนินการโดย การยางแห่งประเทศไทยจังหวัดยะลา

6. การใช้ปุ๋ยไดแอมโมเนียมฟอสเฟต 21 – 0 – 0 ดำเนินการโดย การยางแห่งประเทศไทยจังหวัดยะลา

7. การใช้ปุ๋ย Rynan smart Fertilizers ดำเนินการโดย การยางแห่งประเทศไทยจังหวัดยะลา

8. การใช้เชื้อแบคทีเรีย Bacillus sp. ดำเนินการโดย การยางแห่งประเทศไทยจังหวัดยะลา

9. การใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ดำเนินการโดย กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ร่วมกับ สำนักงานเกษตรจังหวัดยะลา

ในแต่ละวิธีการ เกษตรกรชาวสวนยางจะต้องนำไปใช้ในพื้นที่สวนยางของตนเอง เพื่อศึกษาความเปลี่ยนแปลง ว่าแต่ละวิธีการสามารถป้องกัน ควบคุม กำจัด โรคใบร่วงในยางพาราได้หรือไม่ และนำวิธีการที่ดีที่สุดไปขยายผลให้กับเกษตรกรชาวสวนยางรายอื่นต่อไป

สำหรับโครงการบริหารจัดการโรคใบจุดกลมในพื้นที่จังหวัดยะลาได้ริเริ่มจากการนำของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธารัฐสภา ที่ตระหนักถึงปัญหาของพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางที่ประสบปัญหากับโรคใบร่วงชนิดใหม่มาเป็นเวลายาวนาน จึงได้ร่วมกันในการหาแนวทางแก้ปัญหาโรคใบร่วงชนิดใหม่ให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง โดยเริ่มจัดตั้งแต่ในการประชุมเตรียมความพร้อมในการอบรมและประชาสัมพันธ์การสร้างการรับรู้ ตลอดจนการจัดทำแปลงสาธิตเพื่อเป็นแนวทางให้กับเกษตรกรชาวสวนยางต่อไป ซึ่งการดำเนินการในวันนี้ได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก กองทุนพัฒนายางพาราของการยางแห่งประเทศไทย ที่จัดสรรมาให้เพื่อใช้ในการดำเนินการต่างๆ ดังที่กล่าวมาข้างต้น

ด้าน ดร.กฤษดา สังข์สิงห์ กรรมการฯ (ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยาง ผู้แทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย) กล่าวว่า การมาในครั้งนี้ เพื่อดูจังหวัดยะลา โมเดล จากปัญหาของโรคใบร่วงชนิดใหม่ที่เกิดขึ้นหนักโดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลา นราธิวาส ซึ่งวันนี้เรามาแก้ปัญหา ด้วยการนำผลิตภัณฑ์ เช่น พวกชีวพันธุ์ ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารเสริม พวกน้ำหมักชีวภาพ รวมถึงชีวพันธุ์ต่างๆ ที่ทดสอบมาในเบื้องต้นล้วว่าสามารถใช้ป้องกันเชื้อราในโรคชนิดใหม่ตัวนี้ได้ และมานำร่องโดยการทำจริงในจังหวัดยะลา และหลังจากที่นี้ จะมีการติดตามเก็บข้อมูล เช่น ความรุนแรงของโรค ลดลงมั้ย และผลผลิตยังคงสภาพเดิมมั้ย ไม่ทำให้ผลผลิตลดลง ก็มาช่วยทั้งการบำรุงรักษาต้นยาง และช่วยลดตัวเชื้อโรคที่อยู่บนดิน ถ้ากรรมวิธีไหนดี จากที่มีทั้งหมด 9 กรรมวิธี ก็จะขยายผลในโอกาสต่อไป ขยายผลไปยังพื้นที่ต่างๆ ของประเทศด้วย คือ โรคยางมีหลายชนิด เดิมที่ผ่านมา มีทั้งโรคไฟธอฟทอรา โรคราแป้ง ซึ่งอันนี้อาจจะคุ้นเคย แต่ตัวนี้เป็นโรคใบร่วงชนิดใหม่ ซึ่งตรวจพบใหม่ มาจากประเทศอินโดเนเซีย และเข้ามาเลเซีย แต่ตอนนี้ ถ้าความรุนแรงคือทำให้ผลผลิตลดลง 30-50 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลต่อพี่น้องเกษตรกร จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทางหน่วยงานรับผิดชอบเข้าบูรณาการหลายหน่วยงานในการลงมาช่วยแก้ปัญหาให้กับพี่น้องเกษตร เป็นโครงการนำร่องและถ้าได้ผลดี เราจะเลือกสิ่งที่ดีไปขยายผลสำหรับพื้นที่อื่นต่อไป