พุทธศาสนิกชนชาวตะเคียนเตี้ย ร่วมสืบสานประเพณี “ใส่ข้าวต้มลูกโยน”ทำบุญตักบาตรเทโว หลังวันออกพรรษา ปี 2567
ที่วัดนาลิกาวนาราม (วัดตะเคียนเตี้ย)อ.บางละมุง จ.ชลบุรี (18ต.ค.2567) พุทธศาสนิกชนชาวตะเคียนเตี้ย ร่วมสืบสานประเพณีทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ หลังวันออกพรรษา 1 วัน โดยพี่น้องประชาชนชาวตะเคียนเตี้ยและใกล้เคียง รวมถึงนักการเมืองระดับท้องถิ่น นำอาหารคาวหวานมาร่วมทำบุญใส่บาตรและยังร่วมสืบสานประเพณีใส่ “ข้าวต้มลูกโยน” หรือ “ข้าวต้มหาง” ประเพณีที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ อย่างเนืองแน่น
สำหรับ “ข้าวต้มลูกโยน” หรือ”ข้าวต้มหาง” ลักษณะคล้ายข้าวต้มมัด แต่มีขนาดเล็กกว่า อีกทั้งในรูปแบบการห่อมีเอกลักษณ์โดดเด่น ไว้หางยาวเพื่อความสะดวกในการใส่บาตร การทำข้าวต้มลูกโยน หรือ ข้าวต้มหาง ทำมาจากข้าวเหนียว ซึ่งจะนำมาผัดกับกะทิคล้ายกับการทำข้าวต้มมัด แต่จะมีขนาดเล็กกว่า “ข้าวต้มลูกโยน” จะใส่กล้วยถั่วดำแล้วนำมาห่อ ซึ่งรูปแบบการห่อจะนำใบเตยหรือใช้ใบมะพร้าว ฯลฯ ทำเป็นกรวยม้วนพันไปจนหุ้มข้าวเหนียวโดยทิ้งชายไว้ จากนั้นจะมัดด้วยตอกก่อนนำไปนึ่งให้สุกอีกครั้ง
การทำ “ข้าวต้มลูกโยน” หรือ “ข้าวต้มหาง” นิยมทำในวันออกพรรษา ซึ่งชาวตะเคียนเตี้ยหรือชาวจังหวัดชลบุรีได้ปฏิบัติสืบสานประเพณีอันดีงามมารุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจุบัน อีกทั้งเป็นประเพณีเก่าแก่ของที่นี่ ซึ่งทุกบ้านจะทำข้าวต้มลูกโยนเพื่อนำไปทำบุญตักบาตรเทโวฯ
สำหรับการตักบาตรเทโว เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นหลังวันออกพรรษา 1 วัน คือ แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งปี 2567 นี้ตรงกับวันที่ 18 ตุลาคม จะมีการ “ตักบาตรเทโว”หรือ“เทโวโรหณะ” เป็นการระลึกถึงวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากที่องค์สัมมาสมพุทธเจ้าเสด็จแสดงพระอภิธรรมโปรดพระมารดา ทรงจำพรรษาที่นั้นเป็นเวลา 3 เดือน และกลับจากเทวโลก จึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า“ตักบาตรดาวดึงส์” โดยอาหารที่นิยมนำไปใส่บาตรคือ ข้าวต้มมัด ข้าวต้มหางและ ข้าวต้มลูกโยนนั่นเอง